เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

เขียนเมื่อ: 18-05-2023 15:06

หมวดหมู่: บริการขนส่งและยานพาหนะ

เหตุนี้ ! มีเรื่อง ... “รถทัวร์หนีก่อนเวลา”

ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง จองตั๋วรถทัวร์ผ่านเว็บไซต์ ของบริษัทเอกชน แต่พอถึงเวลาไม่เจอรถ ที่จุดจอด เอาละซิ คราวนี้ ก็เคว้งน่ะสิ...หลายคน อาจจะบอก เฮ้ย! มันจะเป็นไปได้ยังงัย ?

แหม! ก็มันเกิดเรื่องขึ้นจริงแล้วน่ะสิ มีตัวละครจริง ไม่ได้ใช้ ตัวแสดงแทน ** มีผู้เสียหาย มาร้องเรียนกับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ขอใช้นามสมมุติ ว่า “คุณเมฆ” เจ้าตัวเล่าว่า เดินทางไปเที่ยวสงกรานต์ ที่ภูเก็ต ด้วยความที่เดินทางคนเดียว ก็เลยใช้บริการขนส่งสาธารณะ ตอนขาไปก็สะดวกโยธิน, แต่ .. ตอนขากลับนี่สิเกิดเรื่องเลย วันนั้น 16 เมษายน 2566 ได้จองตั๋วรถทัวร์ผ่านเว็บไซต์ ของบริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ปลายทางคือ สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เป็นรถทัวร์ Premium first class VIP24 ราคาตั๋ว ราคา 1,192 บาท เวลานัดหมายขึ้นรถ ที่สถานีขนส่ง คือ 18.10 น. ตามที่พนักงานของบริษัทรถทัวร์โทรศัพท์มาแจ้งล่วงหน้า ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ .. เมื่อผู้เสียหาย ไปถึง สถานีขนส่ง ก่อนเวลาด้วยซ้ำ แต่กลับไม่พบรถคันที่จองไว้ สอบถามรถทัวร์คันอื่น รวมถึงผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น บอกตรงกันว่า “รถคันที่ผู้เสียหายจองไว้ ขับออกไป ก่อนเวลาจ้า !**

ทำยังไงล่ะทีนี้ เงินค่าตั๋ว ก็จ่ายไปแล้ว แถมซื้อระดับ VIP จะได้นั่งสบายๆ แต่กลับถูกทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งซะงั้น .. ผู้เสียหายบอกว่า พยายามติดต่อหาบริษัทขนส่งรายนี้ทุกช่องทาง ทว่าติดต่อไม่ได้

ไม่ได้การล่ะ เวลาล่วงเลยมา 1 ทุ่มเศษ ตั๋วรถทัวร์ก็ไม่มีขายแล้ว ยังไงก็ต้องกลับกรุงเทพ ฯ ภายในค่ำนี้ เพราะ วันรุ่งขึ้นต้องทำงาน เอาวะตัดสินใจ เดินทางไปสนามบินภูเก็ต ซื้อตั๋วเครื่องบิน ราคา 4,250 บาท ซึ่งเหลือเป็น ที่นั่งสุดท้าย เครื่องขึ้นบิน เวลา 21.20 น. มุ่งสู่ กรุงเทพฯ

ตกรถ” เพราะ “รถ ออก ก่อน เวลา “เอาเปรียบผู้โดยสารอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะจ่ายเงินค่าตั๋วแล้ว ยังไงรถก็ต้องรอ หากยังไม่ถึงเวลารถออก

ผู้โดยสารที่เสียหายรายนี้ เมื่อกลับถึงกรุงเทพฯ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่บริษัททัวร์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของรถทัวร์ที่หนีออกก่อนเวลา, เพื่อให้ชดเลยค่าเสียหาย แต่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะแค่ “ แก้ผ้าเอาหน้ารอด “ เพราะแค่รับปากไปส่งๆ ว่าจะติดต่อกลับอีกครั้ง

แต่รอแล้วรอเล่า บริษัททัวร์เจ้านี้กลับทำเงียบผู้เสียหาย ตัดสินใจ มาขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิทักษ์สิทธิได้แนะนำเบื้องต้นให้ผู้ร้องทำหนังสืออย่างเป็นทางการ ส่งถึงบริษัททัวร์เพื่อเรียกร้องให้ชดใช้ทั้งเงินค่ารถทัวร์ ซึ่งจ่ายไปล่วงหน้าแต่กลับไม่ได้ใช้บริการ รวมถึงค่าเครื่องบินซึ่งผู้เสียหายจำเป็นต้องใช้บริการอย่างเร่งด่วน เพราะผลพวงจากรถทัวร์ ไม่รอผู้โดยสารทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว และยังมาก่อนเวลา รวบรวมหลักฐานนำไปแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน เพื่อดำเนินการทางคดีร้องเรียนเรื่องรถโดยสารสาธารณะได้ที่สายด่วนของกรมการขนส่งทางบก โทร 1584

26 เมษายน ที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้สอบถามไปยังบริษัททัวร์ที่เกิดปัญหา พนักงานบอกว่า ก่อนที่รถทัวร์จะมาถึง สถานีขนส่ง ที่ บ้านท่าเรือ จังหวัดภูเก็ต พนักงานต้อนรับบนรถทัวร์ของบริษัทและเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานในจังหวัดภูเก็ต ได้โทรศัพท์ติดต่อผู้ร้องหลายครั้ง เพื่อให้มาขึ้นรถ เมื่อรอได้ประมาณ 5 นาที รถทัวร์ต้องออกจากสถานีขนส่ง เนื่องจากไม่สามารถจอดรถรอผู้โดยสารเพียงคนเดียวได้ แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ร้องได้

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงสอบถามไปยังผู้เสียหาย ได้รับการยืนยันว่ารถทัวร์ออกก่อนเวลา แล้วการที่บริษัทอ้างว่า ได้โทรศัพท์มาหาลูกค้าเพื่อตามให้ขึ้นรถ ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะถึงแม้ ผู้โดยสารอาจจะเต็มรถ หรือไม่ก็ตาม แต่การที่ขับรถออกไปก่อน ทั้งที่ผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วยังเหลืออีกคนที่ยังไม่ได้ขึ้นรถถือเป็นการไม่รับผิดชอบต่อผู้บริโภค

16 พฤษภาคม 2566 มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้ออกจดหมาย ไปยังบริษัททัวร์ให้เร่งดำเนินการชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้บริโภค โดยขอรับทราบผลดำเนินการเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการ ไม่ยินยอมจ่าย อาจต้องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย โดยหากฝ่ายผู้ร้องกับผู้ประกอบการมีภูมิลำเนาในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑลทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จะขอเชิญทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ย หากแต่ละฝ่ายอยู่ต่างจังหวัด จะใช้ช่องทางประชุม ON LINE ผ่าน ZOOM เพื่อไกล่เกลี่ย หากไม่สามารถหาข้อยุติได้ อาจจะต้องยื่นฟ้องเป็นคดีผู้บริโภค

30 พฤษภาคม 2566 บริษัททัวร์ ได้ติดต่อกับผู้ร้อง โดย เสนอจะคืนค่าตั๋วโดยสาร จำนวน 1,192 บาท และสามารถเดินทางกับรถทัวร์ของบริษัทฯ ได้อีกครั้งโดยไม่คิดค่าโดยสาร ส่วนค่าตั๋วเครื่องบิน ไม่สามารถชดใช้คืน ซึ่งทางผู้ร้องขอตัดสินใจ จะรับเงื่อนไขนี้ หรือ ฟ้องร้อง

ทั้งนี้ ระเบียบ และคู่มือรถร่วมบริษัทขนส่ง จำกัด พุทธศักราช 2547 หมวด 7 ตั๋ว หรือบัตรโดยสาร และสัมภาระผู้โดยสาร . ข้อ 78หากผู้โดยสารได้ซื้อตั๋วหรือบัตรโดยสาร แล้วประสงค์จะเลื่อนการเดินทางก็ให้เลื่อนการเดินทางได้ แต่ต้องขอเลื่อนการเดินทาง ก่อนถึงกำหนดเวลาเดินทางไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง หากขอเลื่อนเวลาเดินทางน้อยกว่า 1 ชั่วโมงก่อนถึงกำหนดเวลาเดินทาง ให้คิดค่าธรรมเนียมเลื่อนการเดินทางร้อยละ 10 ของค่าโดยสารและค่าบริการ

. ข้อ 79 หากผู้โดยสารได้ซื้อตั๋วหรือบัตรโดยสารแล้วไม่สามารถเดินทางได้ประสงค์จะขอยกเลิกการเดินทางและขอคืนเงินค่าโดยสารและค่าบริการ ก็ให้คืนเงินค่าโดยสาร และค่าบริการได้ แต่ต้องขอคืนเงินค่าโดยสารและค่าบริการก่อนถึงกำหนดเวลาเดินทาง ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง โดยหักค่าธรรมเนียมร้อยละ 10 ของค่าโดยสารและค่าบริการ

เครดิตเรื่อง : ณัฐกันต์ จตุรวงษ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค