มติ 3:2 ยื่นอุทธรณ์ คดีคิดค่าโทรปัดเศษ “วินาที” เป็น “ นาที “ ตอกย้ำชัดเจนว่า กสทช.ไม่ปกป้องประโยชน์ผู้บริโภค
เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
เขียนเมื่อ: 10-08-2022 18:13
หมวดหมู่: สื่อและโทรคมนาคม

วันนี้ (10 สิงหาคม 2565) ที่ประชุม กสทช. มี มติ 3:2 ยื่นอุทธรณ์คดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคยื่นฟ้อง กสทช. กรณีคิดค่าโทรปัดเศษ “วินาที” เป็น “นาที” โดยใช้สิทธิ “ยื่นอุทธรณ์” ต่อ “ศาลปกครองสูงสุด” ภายใน 30 วัน นับแต่ศาลปกครองกลาง มี คำพิพากษา เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ที่ให้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กำกับดูแลผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้แก่ DTAC และ AIS ต้องคิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริง โดยห้ามปัดเศษวินาที เนื่องจาก มีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาว่า ... ผู้ให้บริการคลื่นความถี่สามารถเลือกใช้ “หน่วยวัด” เพื่อคิดค่าบริการได้ ทั้ง “หน่วย วินาที” หรือ “นาที” แต่กสทช. ควรกำหนดหลักเกณฑ์ หรือ เงื่อนไขห้ามผู้ให้บริการคลื่นความถี่ใช้วิธีคิดแบบปัดเศษ วินาทีเป็นนาทีส่วนวิธีการคิดค่าบริการขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ กสทช. รวมทั้งให้ กสทช. พิจารณาแนวทางการกำกับดูแลอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
นางสาวกชนุช แสงแถลง ผู้อำนวยการ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า เข้าใจดี ว่าเป็นสิทธิของ กสทช. ในการที่จะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ แต่ก็ผิดหวังต่อการทำหน้าที่ของ กสทช. จึงอยากให้ทบทวนด้วยการอ่านคำพิพากษาและชั่งน้ำหนักให้ดี และตอบคำถามต่อสังคมให้ได้ว่า กสทช. ยืนอยู่ข้างผู้ประกอบการณ์หรือผู้บริโภค? เพราะ เมื่อกสทช. 3 เสียง ลงมติ อุทธรณ์ ปัดเศษวินาที เป็น นาที ย่อมเป็นการประวิงเวลา ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองล่าช้าลงไปอีก อย่างน้อย 2 ปี ตามที่ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา อดีต กสทช. ในฐานะผู้บริโภค (ผู้ฟ้องคดี) ยื่นฟ้อง กสทช. ร่วมกับ มูลนิธิผู้บริโภค ที่ต่อสู้ ผ่านกระบวนการฟ้องร้องยาวนานถึง 5 ปี ให้ความเห็นไว้ นั่นเท่ากับว่า กสทช, ที่ต้องการอุทธรณ์ปัดเศษ มองไม่เห็นถึงคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่ต้องการเห็นประโยชน์ในแง่การคุ้มครองผู้บริโภค โดยเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้เห็นว่า การปัดเศษเป็นการค้าขาย ที่ไม่เป็นธรรมและเอาเปรียบผู้บริโภค