เหตุนี้ ! มีเรื่อง...โดนหลอกเปิดซิมเป็นหนี้หลักหมื่น!
เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
เขียนเมื่อ: 27-06-2023 16:33
หมวดหมู่: สื่อและโทรคมนาคม

เหตุนี้ ! มีเรื่อง...โดนหลอกเปิดซิมเป็นหนี้หลักหมื่น!
“เงินเดือนหลักหมื่น! เป็นลูกจ้างบูธขายมือถือในห้างฯ รับทั้งแบบประจำและฟรีแลนซ์ ต้องการจำนวนมาก อายุ 18 ปีขึ้นไป สนใจติดต่อทางข้อความ MESSENGER
นี่เป็นข้อความบนเพจเฟซบุ๊กหางาน ที่ไม่บอกตัวตนคนโพสต์ แต่กลับมีเหยื่อติดกับดักจำนวนมาก เพราะหลงกลคำว่า “ค่าจ้างรายได้ดี “ เมื่อรู้ตัวก็สายเสียแล้ว หลายคนกลายเป็นหนี้หัวโต เพราะถูกหลอกไปเปิดซิมมือถือ
ตกเป็นเหยื่อลงทะเบียนซิมมือถือ เจ้าตัวไม่ได้ใช้แต่ต้องจ่ายหนี้
เพราะอะไรน่ะเหรอ! ลองมาอ่านเคสของผู้เสียหายรายนี้ วัย 19 เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปี 1 ที่คุณแม่ พามาร้องเรียนกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ จึงเริ่มซักถามต้นสายปลายเหตุ!
“ หนูเจอโพสต์เฟซบุ๊กประกาศรับสมัครพนักงานขายโทรศัพท์ตามบูธที่เปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า แถว ศาลายา (นครปฐม) ด้วยความอยากหารายได้พิเศษแถมอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ก็เลยติดต่อไปทางข้อความ ทางนั้น บอกว่า ต้องไปลงทะเบียนซิมกับค่ายมือถือเพื่อยืนยันตัวตน ถึงจะพิจารณารับเป็นพนักงาน แต่เขาต้องเป็นคนพาไปสมัครนะ ก็เลยนัดไปเจอกันที่ห้างฯ วันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ( 2566 ) แต่พอไปถึงศูนย์ฯ เขาบอกว่า ขอตัวไปเจอคุณแม่พี่ก่อน ให้น้องไปจัดการให้เสร็จทั้ง 3 ค่าย
เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ถามว่า รู้จักตัวตน-ชื่อเสียงเรียงนาม คนที่นัดเรามาหรือเปล่า ... น้องบอก ไม่ค่ะ ..ไม่ได้ถามด้วย ยอมรับว่า ตอนนั้นอาจจะคิดน้อย ไม่ได้คิดมาก ตอนยื่นบัตรประชาชน ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ มือถือ ก็ไม่ได้อ่านรายละเอียดในเอกสาร ได้แต่เขียนว่า สำเนาถูกต้อง แล้วก็เซ็นชื่อ ตามที่พนักงานบอก แต่ไม่ได้ขีดคร่อม “ใช้เพื่อ... เท่านั้น” แล้วก็ไม่ได้เซ็นวันที่กำกับ ส่วนคนที่พามาจดทะเบียนซิมมือถือก็ตามมาสมทบทีหลังทุกครั้งเลย จนครบทั้ง 3 ค่าย
น้องเล่าต่อว่า พอเสร็จการยืนยันตัวตน “ หนูก็ไม่ได้คิดอะไรมากค่ะ เพราะตอนนั้น คิดแค่ว่า จะทำ พาร์ทไทม์ไม่เกิน 3 เดือน เลยอยากรู้แค่ จะได้งานนี้มั้ย ได้เงินเดือนเท่าไหร่ ..คนที่พามาเปิดซิม ก็บอกว่า ต้องดูก่อนว่า ไปยืนยันตัวตนกับค่ายแล้วผ่านมั้ย ถ้าผ่าน เริ่มต้นจะให้เดือนละ 9 พันบาท ถ้าผ่านฝึกงานจะให้เพิ่มเป็น 1 หมื่น 2 พันบาท เมื่อถามว่าได้ไปดูบูธขายโทรศัพท์ที่เราต้องไปทำงานไหม คำตอบคือ “ หนูก็ถามเขานะ ที่ทำงานอยู่ตรงไหนในห้างฯ คนที่พาไปเปิดซิมก็ชี้ไกลๆ บอกว่านั่นไง คือ ชี้โบ๊ ชี้เบ๊ ไปเรื่อย แต่บอกว่า จะติดต่อไปอีกรอบ เพราะมีคนมาสมัครเยอะ เขาให้ความหวัง ตอนนั้นเราก็เชื่อ พอผ่านไปนานก็คิดว่า ไม่ได้งานแล้วมั้ง ก็ปล่อยเลยตามเลย
รู้ตัวโดนหลอก เมื่อใบแจ้งหนี้ 3 ค่ายมือถือรวมกว่า 2 หมื่นบาทส่งถึงบ้าน !
ต้นเดือนมิถุนายน 2566 เป็นวันที่บิลทวงหนี้ส่งมาถึง! น้องบอกว่า ไม่เข้าใจทำไมบิลมาเก็บเอาเดือน ที่ 3 เพราะตอนทำสัญญาคือเมษายน ในบิลของ3ค่ายมือถือมียอดหนี้ไม่เท่ากัน แต่ยอดค่าใช้บริการค้างชำระ บวกกับค่าปรับรวม 2 หมื่นกว่าบาท ตอนนั้นตกใจนะ เพราะเซ็นสัญญาเปิดซิม แต่ไม่ได้เอาซิมกลับมา แต่พอนึกไปนึกมา จำได้ว่าคนที่หลอกพามาเซ็นสัญญาเปิดซิม พกโทรศัพท์มือถือมาด้วย 3 เครื่อง เท่ากับ หลอกให้หนูไปเปิดซิม แล้วเขาก็เอาไปใช้ฟรีๆ
เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดจากผู้ร้องเรียน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงให้คำแนะนำ ตามขั้นตอนดังนี้
- แจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อเอาผิดคนก่อเหตุ ( อย่าลงบันทึกประจำวันเด็ดขาด )
อ่านข้อมูล
ลงบันทึกประจำวัน คือ การลงบันทึกแล้วจบ
แจ้งไว้เป็นหลักฐาน คือ การลงบันทึกแล้วจบ
ขอให้ดำเนินคดี คือ การแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดี
กฎหมายน่ารู้ 85 : แจ้งความคดีอาญาอย่างไร? เรื่องไม่เงียบ เฟซบุ๊ก สำนักงานกิจการยุติธรรม https://www.facebook.com/weareoja/posts/pfbid02DLPf2kMZ44iBMhcbw2E5pTZe323L1oTLpmnjjjNshrAvXwjnhBhs4WfpfvNACLbXl
- นำใบแจ้งความไปยื่นต่อค่ายมือถือเพื่อยืนยันถูกมิจฉาชีพหลอกให้เปิดซิมเพื่อขอทำหนังสือ ขอระงับบริการ และ ขอยกเลิกสัญญา ถึงแม้เครือข่ายจะยอมระงับบริการก็ต่อเมื่อผู้ใช้บริการ จ่ายหนี้ส่วนที่ค้างจนหมด ก็ตาม การทำวิธีนี้ มีข้อดี คือ เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่เราถูกหลอกถึงแม้ไม่สามารถหักล้างสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย เพราะมีลายเซ็นบนสำเนาบัตรประชาชน ดังนั้น บริษัทจึงไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบ ถึงแม้ผู้เสียหาย ทำเรื่องฟ้องร้อง ก็อาจถูกฟ้องกลับ ข้อหาแจ้งความเท็จ มันจะเสียหายเยอะกว่านี้
หลังจากดำเนินการตามข้อแนะนำเบื้องต้น น้องผู้เสียหาย ได้แจ้งความคืบหน้ากับฝ่ายพิทักษ์สิทธิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ดังนี้
- คุณแม่ได้แค่ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ ด้วยความที่ลืมคำแนะนำว่าต้องแจ้งความ
- เมื่อติดต่อกับ 3 ค่ายมือถือ ได้คำแนะนำ 3 วิธี อยู่ที่ว่าจะเลือกทำแบบไหน
- จ่ายหนี้ทั้งหมด
- ตอนนี้ซิมล็อกอัตโนมัติเพราะค้างจ่ายหนี้ 3 เดือน แต่สามารถเปิดเบอร์เดิมแล้วใช้เน็ตที่เหลือแล้วจ่ายเงินรายเดือนจนครบ 1 ปี ก็จะไม่มีปัญหา
- ไม่ต้องจ่ายหนี้ เพราะไม่ได้เป็นคนผิด แต่ในฐานะที่มีชื่อไปเปิดซิม จะติดแบล็กลิสต์ 5 ปี ทำธุรกรรมอะไรไม่ได้ จนกว่าจะมาจ่ายหนี้ทั้งหมด
น้องบอกว่า ขอเลือกแบบที่ 3 “ ในเมื่อหนู ก่อปัญหาเอง ก็ขอรับผิดชอบ ไม่อยากให้พ่อ-แม่ ต้องมาเดือดร้อนด้วย เพราะในอนาคต จบปริญญาตรี มีงานทำ หนูขอเอาเงินไปจ่ายคืนเอง แล้วก็ถือเป็นโชคดีที่ค่ายมือถือ บอกว่า กรณีของหนูจะไม่ถูกฟ้องร้อง เพราะแต่ละซิม + ค่าปรับ ยอดหนี้ไม่เพียงพอที่จะฟ้องร้อง”
ส่วนมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จะช่วยเหลือผู้เสียหายอีกแรง และ ยังช่วยเหลือไปถีงเหยื่อรายอื่นๆด้วย ถือเป็นการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการปัญหาตั้งแต่ต้นทาง
- ทำหนังสือไปค่ายมือถือ เพื่อขอยกเลิกสัญญาของน้องผู้เสียหายรายนี้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้เห็นกระบวนการได้ดำเนินการเกิดหลักฐาน โดยกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจน “ การทำธุรกรรมใดๆ กับเด็กที่เป็นเยาวชน ต่ำกว่าอายุ 20 ปีลงไป ให้ถือว่า การนั้นเป็น “โมฆียะ” หากพ่อ-แม่ - ผู้ปกครอง เป็นผู้บอกเลิกสัญญา พร้อมขอให้ตรวจสอบหากมีเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี มาเปิดซิม แล้วไม่มีผู้ปกครองมาด้วย ต้องมีหลักเอกสารหลักฐานอย่างชัดเจน ไม่ใช่ว่า เจอใครมาเปิด ก็ทำให้
- จะทำหนังสือถึง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพราะจากเหตุลักษณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี ที่โดนหลอก ดังนั้น จะมีมาตรการควบคุมค่ายมือถือที่รัดกุมอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก โดยเฉพาะกับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หรือ การถาม มากับผู้ปกครองหรือไม่ หรือ ใคร พามา
ทั้งนี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ตั้งข้อสังเกต ถึงเหตุที่มิจฉาชีพ หลอกเยาวชนไปเปิดซิม แล้วเอาไปใช้เอง เพราะรู้ดีว่า หากใช้ไป 3 เดือน ไม่จ่ายหนี้ ระบบจะล็อกอัตโนมัติ เท่ากับ ได้ใข้งานฟรี ๆ ไม่ต้องจ่ายหนี้ รอเวลา 3 เดือน แถมได้เหยื่อรายใหม่ไปเรื่อย ซึ่งเคสน้องวัย 19 รายนี้ ถูกหลอกเพราะอยากได้งาน ดังนั้น การป้องกันต้องเริ่มจากต้นทางให้เด็กรู้เท่าทันมิจฉาชีพ ต่อมาหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแล และเอกชนที่ให้บริการเครือข่ายมือถือต้องเข้มงวดกับการตรวจสอบเอกสารและหลักฐานก่อนทำธุรกรรมใดๆ ให้กับเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และยังสามารถป้องกันไปถึงการรับจ้างเปิดซิม
อ่านข้อกฎหมาย ตร.ไซเบอร์เตือนภัย❗️รับจ้างเปิดซิมผี-บัญชีม้า โดนโทษหนัก ทั้งโดนปรับ หรืออาจถึงขั้นติดคุก‼️ เพจ ตำรวจไซเบอร์ 2 https://www.facebook.com/cybercops2/posts/pfbid02ZPhS6oRytHQv7FoXGA8Q7Sy4ydXxuUZkg1MkLnLN26HXnmisLfYHmN2sGQDXJNdql
เครดิตเรื่อง : ฟิตรีนา อาลี เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค