มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์ 02 248 3737
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์
Consumer Thai Facebook page

< กลับไปหน้ารวมข่าว

เมื่อ...มิจฉาชีพใช้กลวิธี "ดัก ใน ดัก " ปลอมเป็นตำรวจลวงเหยื่อ!

เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

เขียนเมื่อ: 31-12-2024 16:17

หมวดหมู่: การเงิน การธนาคาร

ภาพประกอบข่าว

เมื่อ...มิจฉาชีพใช้กลวิธี "ดัก ใน ดัก" ปลอมเป็นตำรวจลวงเหยื่อ!

ช่วยด้วย! เจอมิจฉาชีพทำงานเชิงรุก ยิงโฆษณา Facebook กันฉ่ำๆ แถมเปิดเว็บไซต์แอบอ้างเป็น "ตำรวจไซเบอร์" รับแจ้งความช่วยเหลือผู้ถูกหลอกลวงทางออนไลน์ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อมิจฉาชีพจะสร้างบัญชีปลอมให้ติดต่อกลับ จากนั้นเริ่มขอเอกสารส่วนตัวของเหยื่อ เช่น สำเนาบัตรประชาชน หรือ เอกสารประจำตัวอื่น ๆ จนถึงขั้นตอนหลอกให้โอนเงินโดยอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการ หรือ ข่มขู่ด้วยบทลงโทษทางกฎหมาย

ทำไม? เหยื่อหลงเชื่อ! นั่นก็เพราะ... ข้อมูลตำรวจตัวจริง พวกมิจฉาชีพมันก็รู้หมด...ชื่ออะไร ตำแหน่งอะไร หน่วยงานไหน อยู่ตึกไหน ชั้นไหน เบอร์มือถือ อยู่บ้านเลขที่เท่าไหร่ แถมยังเอารูปนายตำรวจระดับสูงทำภาพกราฟิก ลักษณะรับเรื่องร้องเรียนช่วยเหลือประชาชนที่ถูกหลอกทางออนไลน์ มันสร้างความสับสน เพราะคิดว่าเป็นตำรวจตัวจริง กระทั่งติดกับดัก เพราะถูกบอกให้ส่งข้อความร้องเรียนทางแชท สุดท้ายหลอกผู้เสียหายซ้ำ ทำให้สูญเสียเงินซ้ำสอง โดน "หลอก ใน หลอก" ซ้ำเข้าไปอีก !

เหยื่อพากันร้องเสียงหลง จะติดต่อเพจตำรวจไซเบอร์ ถามว่าเพจไหนตำรวจจริง หรือเพจปลอม ก็เข้าทำนอง “หนีเสือปะจระเข้ “ ความไว้วางใจ เมื่อแตกร้าวมันก็จบ ฟื้นยาก...ต้องถามว่าทำไม? ถึงปล่อยให้มิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนได้ง่ายและเยอะถึงเพียงนี้ ! จี้ ตำรวจจริง จะจัดการยังไง? ให้สิ้นซาก เราก็เห็นนะ ตำรวจแถลงไล่ปิดเว็บไซต์ปลอม...คือ มันปลายทางแล้วอ้ะ แล้วปิดได้แค่หลักร้อย แต่มิจฉาชีพมันเปิดใหม่ได้เรื่อยๆ เป็นหลักพัน อยากถามว่าไม่มีวิธีที่เป็นต้นทางแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหรอ?

ใช่ ...มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ก็อยากรู้เหมือนกัน เพราะฝ่ายพิทักษ์สิทธิ ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายจำนวนมากที่เจอกับดักเพจของตำรวจปลอม มันสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่สำคัญในยุคดิจิทัล ซึ่งผู้บริโภคมักตกเป็นเป้าหมายของการหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ การแจ้งเตือนและการดำเนินการอย่างทันท่วงทีของผู้ร้อง ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการปกป้องสิทธิของตนเองและป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นตกเป็นเหยื่อเพิ่มเติม

ธนัช ธรรมมิกสกุล หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิฯ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ผู้บริโภค (ผู้ร้อง) ได้เข้ามาร้องเรียนต่อมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคว่า พบเพจในสื่อสังคมออนไลน์ที่อ้างตัวเป็นเพจของเจ้าพนักงานตำรวจ โดยใช้ชื่อ รูปภาพ และเนื้อหาที่ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเป็นเพจอย่างเป็นทางการของหน่วยงานตำรวจ ผู้ร้องแสดงความกังวลว่าเพจดังกล่าวอาจถูกใช้เพื่อการหลอกลวงหรือการกระทำที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในวงกว้าง และขอให้มูลนิธิฯ ช่วยตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม

เมื่อมูลนิธิฯ ได้รับเรื่องร้องเรียน จึงทำการตรวจสอบข้อมูลของเพจดังกล่าวโดยละเอียด พบว่าเพจดังกล่าวไม่ได้เป็นเพจที่จัดทำหรือดูแลโดยเจ้าพนักงานตำรวจหรือหน่วยงานราชการใด ๆ แต่เป็น เพจปลอม ที่สร้างขึ้นโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่ประสงค์ดี โดยใช้วิธีการเลียนแบบลักษณะของเพจทางการ ทั้งในด้านชื่อเพจ โลโก้ รูปภาพ และข้อความประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบ มูลนิธิฯ พบว่าเพจดังกล่าวมีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายการหลอกลวง เช่น การเชิญชวนให้ประชาชนโอนเงินเพื่อแลกกับการช่วยเหลือทางคดี หรือการแอบอ้างว่ามีอำนาจในการให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย ทั้งที่ในความเป็นจริงเพจดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใด ๆ ของรัฐ

หลังจากการตรวจสอบ มูลนิธิฯ ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ร้องดังนี้

1. หลีกเลี่ยงการติดต่อหรือให้ข้อมูลส่วนตัวกับเพจดังกล่าว แนะนำให้ผู้ร้องและประชาชนทั่วไปไม่หลงเชื่อคำกล่าวอ้างของเพจที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจน และไม่ควรให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ หรือข้อมูลทางการเงินกับเพจดังกล่าว 2. แจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ (หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง) มูลนิธิฯ แนะนำให้ผู้ร้องรวบรวมหลักฐาน เช่น ภาพหน้าจอของเพจ ข้อความที่เพจดังกล่าวส่งถึง หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้หน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย 3. เฝ้าระวังและตรวจสอบแหล่งข้อมูลก่อนเชื่อถือ แนะนำให้ผู้ร้องและประชาชนตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์หรือเพจอย่างเป็นทางการของหน่วยงานรัฐ และหลีกเลี่ยงการติดต่อหรือดำเนินการใด ๆ กับเพจที่ไม่มีการรับรองความน่าเชื่อถือ 4. เผยแพร่ข้อมูลเพื่อเตือนภัยผู้บริโภคคนอื่น ๆ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สนับสนุนให้ผู้ร้องแจ้งเตือนผู้บริโภคในวงกว้างเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการหลงเชื่อเพจปลอมดังกล่าว ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น กลุ่มสังคมออนไลน์หรือชุมชนในพื้นที่

กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่สำคัญในยุคดิจิทัล ซึ่งผู้บริโภคมักตกเป็นเป้าหมายของการหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์ การแจ้งเตือนและการดำเนินการอย่างทันท่วงทีของผู้ร้อง ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการปกป้องสิทธิของตนเองและป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นตกเป็นเหยื่อเพิ่มเติม มูลนิธิฯ ขอย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจเชื่อถือ และจะคอยติดตามและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันปัญหาลักษณะนี้ในอนาคต

ใช่เลย! "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ยังใช้ได้ดีเสมอ เพราะฉะนั้น ผู้บริโภคถือเป็นด่านแรกที่ต้องหยุดวงจรกับดักของมิจฉาชีพ อะไรแม่แน่ใจอย่าเพิ่งกระโจนเข้าไป เพราะตำรวจตัวจริงเค้าก็ประชาสัมพันธ์เตือนภัย ตอกย้ำให้ได้สติกันอยู่เสมอ ❌ไม่เชื่อ ❌ไม่รีบ ❌ไม่โอน

ทีนี้ หากพลาดกดลิงก์ปลอมไปแล้วต้องทำยังไง? ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงนำวิธีการแก้ไขเมื่อเราพลาดไปกดลิงก์โดยไม่รู้ตัว มาแนะนำ

  • ตั้งสติ และตัดการเชื่อมต่อ Internet ของอุปกรณ์ทันที ทั้ง Wifi และ เครือข่ายมือถือเพื่อลุดความเสื่ยงที่ข้อมูลของเราจะหลุดออกไป
  • ไม่กรอกข้อมูลส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น ในหน้าเว็บที่ลิงก์พาไป
  • ไม่กดอนุญาต หรือ ยินยอม จากข้อความใดๆทั้งสิ้นที่แจ้งมาทางหน้าจอ
  • เคลียร์แอปฯ ทั้งหมดทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้แอปฯแปลกปลอมแอบทำงานอยู่
  • ตรวจสอบแอปฯ ในเครื่องว่ามีแอปฯ อะไรแปลกปลอมติดตั้งมาเพิ่มเติมหรือไม่
  • เปลี่ยนรหัสผ่านสำหรับบัญชีสำคัญทั้งหมด โดยเฉพาะบัญชีธนาคาร อีเมล และบัญชีโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้ง log out ออกจากระบบในทุกอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย
  • เปิดการใช้งานการยืนยันตัวแบบสองชั้น เพื่อความปลอดภัยของอุปกรณ์
  • ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารว่ามีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือไม่ หากมีให้รีบติดต่อธนาคารทันที

วิธีเหล่านี้ถือเป็นวิธีการเบื้องต้นเมื่อเราพลาดกดลิงก์ปลอม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีสติและไม่ตระหนกเมื่อพลาดกดลิงก์ปลอมไปแล้ว

หากพบเจอลิงก์แปลกปลอม หรือเผลอกดลิงก์ไปแล้วและต้องการแจ้งความ หรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับมิจฉาชีพในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนศูนย์ AOC 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง ข้อมูลจากเพจ ตำรวจสอบสวนกลาง พลาดกดลิงก์ปลอมไปแล้วต้องทำยังไง?

ส่วนเพจเฟซบุ๊ก ตำรวจไซเบอร์ - บช.สอท. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ได้ แนะนำวิธีใช้ Cyber Check เพื่อให้หลุดจากกับดักมิจฉาชีพ อ่านเพิ่มเติมคลิก

  • ติดตั้งแอปพลิเคชัน Cyber Check
  • คัดลอกลิงก์ URL
  • วางลิงก์ URL
  • กดปุ่มสแกน URL
  • หน้าจอแสดงผล ❌ ขึ้นสีแดงแสดงว่าเป็นลิงก์ปลอม

ด้วยความห่วงใยจากตำรวจไซเบอร์ โหลด แอปพลิเคชัน Cyber Check ติดเครื่องไว้เพื่อป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์

อีกประเด็นที่สำคัญ ที่ตำรวจไซเบอร์แจ้งเตือน

  1. ไซเบอร์ไม่รับแจ้งความ หรือให้ความช่วยเหลือเหยื่อคดีไซเบอร์ ผ่านแอปพลิเคชัน Line
  2. หากท่านใดถูกหลอกลวง แนะนำให้รีบโทรปรึกษาสายด่วน 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สายด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599
  3. หากตกเป็นเหยื่อคดีออนไลน์ แจ้งความออนไลน์ ที่ www.thaipoliceonline.go.th เท่านั้น
  4. สามารถใช้คู่มือการใช้ระบบแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คลิกที่นี่สำหรับอ่านคู่มือเพิ่มเติม

แต่...จะปล่อยให้ตำรวจทำงานอยู่ฝ่ายเดียวคงไม่พอ เราคนไทยต้องเป็นหู เป็นตาช่วยกันคนละไม้ คนละมือค่ะ ดังนั้น จึงขอย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจเชื่อถือ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จะคอยติดตามและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันปัญหาลักษณะนี้ในอนาคต


ปรึกษา ร้องเรียน
สอบถามเพิ่มเติม