เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

เขียนเมื่อ: 31-03-2023 11:26

หมวดหมู่: สินค้าและบริการทั่วไป

เหตุนี้! มีเรื่อง”เนอร์สซิ่ง”จอมหลอกลวง

พ่อ-แม่ ไม่มีเวลาเลี้ยงลูกวัยยังเล็ก เพราะทั้งคู่ต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ดังนั้น วิธีดีที่สุด ซึ่งมักถูกเลือกเป็นอันดับแรก นั่นคือ การจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่.. จะหาคนไว้ใจได้ เป็นเรื่องยาก อยู่ๆจะเอาใครก็ไม่รู้มาอยู่กับลูกของตัวเอง เกิดเป็นคนนิสัยไม่ดี หรือ เป็นคนร้ายแฝงตัวเข้ามา แย่แน่เลย ถ้างั้น จ้าง เนิร์สเซอรี เลยดีไหม ให้มาดูแลลูกที่บ้านแบบประจำรายเดือน

ประเด็นข้างต้นเป็นหัวข้อหารือกัน ของ สามี-ภรรยา ที่มีลูกเล็ก 2 คน วัย 2 กับ 4 ขวบ เมื่อตัดสินใจ ได้ดังนี้ จึงจัดการเปิด กูเกิล ค้นหา เนิร์สเซอรี่ ที่ไว้ใจได้ เพราะดูจากปัจจัยหลายๆ อย่าง บังเอิญ เปิดเว็บไซต์ ก็เจอ “เนอร์สซิ่งโฮม” แห่งหนี่ง ที่ อวดอ้างว่า รับจัด-ส่ง พี่เลี้ยงดูแลเด็กทั่วประเทศ ทั้งคู่ ก็เห็นตรงกัน จ้างที่นี่ ดีกว่า ไม่รอช้า จัดการโทรศัพท์ตามเบอร์ที่ปรากฏ บนหน้าเว็บไซต์

5 กุมภาพันธ์ 2566 วันที่โทร

ผู้ว่าจ้าง : “ ฮัลโหล “ xxx เนอร์สซิ่งโฮม “ ใช่ไหมคะ

เนอร์สซิ่งโฮม : ใช่ค่ะ

ผู้ว่าจ้าง : ทางเราอยากได้พี่เลี้ยงผู้หญิงมาดูแลลูกสาว 2 คนที่บ้าน คิดค่าบริการยังไงบ้างคะ

เนอร์สซิ่งโฮม : เฉพาะเงินเดือนพี่เลี้ยง 1.6 หมื่นบาท และ มีค่ามัดจำล่วงหน้าแยกต่างหากอีก 1.3 หมื่นบาท แบ่งเป็นค่าประกันจ้างแรงงาน 1 หมื่นบาท และ ค่าบริการจัดส่งผู้มาปฏิบัติงานอีก 3 พันบาท อันนี้ ถือเป็นหลักประกันกับทั้ง 2 ฝ่ายนะคะ เพราะถ้าฝ่ายเราไม่ส่งคนมา จะคืนมัดจำให้ค่ะ แต่หากทางเรา ส่งพี่เลี้ยงไปให้แล้วคุณไม่เอา หรือไม่จ่ายเงินค่าจ้างให้พี่เลี้ยง ทางเราจะยึดเงินมัดจำคืนนะคะ

ผู้ว่าจ้าง : ได้ค่ะ ตกลงตามนี้ ทางเราต้องการพี่เลี้ยง ให้มาเริ่มงาน วันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ นะคะ

เนอร์สซิ่งโฮม : ได้ค่ะ ตกลงตามนี้ รบกวน @line เพื่อส่งหลักฐานการโอนเงินมัดจำ ทางเราจะส่งพี่เลี้ยงมาให้ตามวันนัดส่วนเวลาขอเริ่ม 4 โมงเย็นนะคะ พร้อมทั้ง จะส่งหนังสือ “ สัญญาว่าจ้างบริการดูแลพี่เลี้ยงเด็ก “ มาให้เป็นหลักฐาน

ผู้ว่าจ้าง : ได้ค่ะ

เมื่อถึงวันนัดหมายมาทำงาน 12 กุมภาพันธ์ เวลา 4 โมงเย็น พี่เลี้ยง ก็มาถึงบ้าน พร้อมแนะนำตัว ชื่อ เป็น xxx ชาวลาว อายุ 36 ปี ท่าทางดูดีนะ ... ผัว-เมีย คุยกันถึงพี่เลี้ยงของลูกสาว แต่ ... พูดชมได้ไม่ถึง 3 วัน ลายออกซะแล้ว มาขอลาหยุด 1 วัน อ้างว่า ต้องไปต่อวีซาคนต่างด้าว (ใบอนุญาตทำงานต่างด้าว ) นายจ้าง ก็ใจดี อนุญาต ให้ไป , พอกลับมาทำงานอีก 3-4 วัน คราวนี้ พี่เลี้ยง มาบอก ไม่ทำงานต่อละนะ ! แล้วเธอก็เก็บข้าวของไปทันที วันนั้น คือ 23 กุมภาพันธ์ 2566

อ้าว ไหง ทำแบบนี้ อ้ะ ！นายจ้าง งง มาก ..ไม่ได้การละ จัดการส่งข้อความไปทาง LINE เนอร์สซิ่งโฮม คุยกับ เจ้าของ เพื่อแจ้งเหตุ แล้วก็ช่วยส่งคนใหม่ มาแทน

ข้อความ LINE 27 กุมภาพันธ์ 2566

ผู้ว่าจ้าง : รบกวนแจ้งหน่อยนะคะว่า หาพี่เลี้ยงคนใหม่มาแทนได้ไหม

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : จ้าพี่

นายจ้าง รอแล้ว รอเล่าเฝ้าแต่รอ กลับไร้เงา ไร้คำตอบ ของ เนิร์สซิ่งโฮม ชักร้อนใจ จึงไลน์ถามอีกรอบ

ข้อความ LINE 1 มีนาคม 2566

ผู้ว่าจ้าง : ครบอาทิตย์แล้วนะคะ มีคนมาหรือยัง

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : ( อ่านข้อความ แต่... ไม่ตอบใดๆ )

ข้อความ LINE 2 มีนาคม 2566 จะเห็นข้อความที่อีกฝ่าย อิดออด ซื้อเวลาหาคนมาให้ผู้เสียหาย

ผู้ว่าจ้าง : รบกวนแจ้งหน่อยค่ะ หาคนได้ไหม ถ้าหาไม่ได้ต้องยังไงต่อคะ

เจ้าของเนอร์สซิงโฮม : วันนั้น หนูโทรหาพี่ พอดีมีเด็กใหม่มา พี่ก็ไม่รับสายหนู รอหนูกลับห้องแป๊บนึงนะพี่ หนูก็หาให้นะคะพี่

ผู้ว่าจ้าง : วันนั้น ติดประชุมค่ะ ฝากดูให้หน่อย รอมา1อาทิตย์ , แต่โทรหา วันนี้ 5 รอบ ไม่โทรกลับ และไม่รับสายเลย พี่สะดวกช่วงไหน ช่วยบอกหน่อย แล้วสรุปให้ด้วยค่ะว่า ต้องรอหาคนได้วันไหน ต้องรอนานแค่ไหน

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : กำลังหาให้อยู่ค่ะ หาทุกวันเลยนะคะ แต่ตอนนี้ พี่มาโรงพยาบาล

ข้อความ LINE 3 มีนาคม 2566

ผู้ว่าจ้าง : สรุป มีพี่เลี้ยงคนใหม่มาทดแทนให้ไหมคะ

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : พี่กำลังหาคนแทนไงคะ

ผู้ว่าจ้าง : ทาง พี่เลี้ยงคนเดิม มาตามเรื่อง ค่าจ้าง , พี่โอนให้เขาหรือยัง หรือว่าจะให้ไปคุยพร้อมกัน ที่เนอร์สซิ่งโฮม แล้วจ่ายเงินค่าจ้างกันต่อหน้า ทางพี่ออกจากโรงพยาบาลตอนไหนคะ

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : พี่กำลังหาคนแทนไงคะ , พี่กับเขาก็คุยกันแล้วไง

ผู้ว่าจ้าง : ตกลง คือ แบบไหนคะ นัดคุยที่ เนอร์สซิ่งโฮม ไหมคะ จะไปคุยด้วย

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : ก็คุยกันแล้วไง

ผู้ว่าจ้าง : คุยเมื่อไหร่คะ แล้วพี่ ออกจากโรงพยาบาลวันไหนคะ

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : ท้องพี่เสียไง พี่เป็นบ่อย

ผู้ว่าจ้าง : แล้วจะให้ทำยังไงคะ ถ้าหาพี่เลี้ยงเด็กมาแทน คนเดิมไม่ได้ จะให้ฝ่ายนายจ้างทำยังไงคะ ในเมื่อรอแล้วรออีก ก็ยังไม่ได้ ถ้างั้นเราทั้งหมดไปนัดคุยกันที่ เนอร์สซิ่งโฮม ดีกว่า วันเสาร์นี้นะคะ ( 4 มีนาคม 2566 ) สะดวกกี่โมง แจ้งเลยค่ะ

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : ขอนัดเจอที่บ้านคุณ บ่าย2วันเสาร์ ที่ 4 มีนาคม ดีกว่าค่ะ

ผู้ว่าจ้าง : ตกลงค่ะ

แต่ ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ปรากฏว่า ได้ ไลน์หา นายจ้างขอเลื่อนนัด

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : พี่ขอเป็นวันอาทิตย์ ที่ 5 มีนาคมได้ไหม เพราะว่า วันเสาร์หมอนัดพี่อีก

ผู้ว่าจ้าง : ตกลงค่ะ วันอาทิตย์ นัดเจอ 10 โมงเช้า นะคะ

แต่... สุดท้าย ฝ่ายเนอร์สซิ่งโฮม พอถึงวันนัด ก็หายจ้อยทั้งคู่ แถมไม่แจ้งเหตุใด ๆ , ทางผู้ว่าจ้าง จึงทั้งโทรผ่านไลน์ ไม่รับสาย จึงทักข้อความไปถาม

ผู้ว่าจ้าง : ว่ายังไงคะ ที่นัดไว้ ทำไมไม่มา โทรไปก็ไม่รับสาย ถ้าอย่างนั้น ทาง เนอร์สซิ่งโฮม ต้องโอนเงินค่ามัดจำ 1.3 หมื่นบาท คืนมาด้วยค่ะ ให้เวลาภายใน 10.00 น. วันที่ 8 มีนาคม 2566 นะคะ และในฐานะผู้ว่าจ้าง ขอสงวนสิทธิ์ เรียกร้องความเสียหายเพิ่มเติม เพราะผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง

คราวนี้ ฝ่ายเนิร์สซิ่งโฮม ยอมตอบไลน์

เจ้าของเนอร์สซิ่งโฮม : ตอนนี้ หนูไม่สบาย เข้าโรงพยาบาลบ่อย 3-4 วันมานี้ ถ้าเลิกสัญญา หนูก็จะคืนเงินให้ค่ะ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลไม่ค่อยสะดวกรับสาย

สรุปสุดท้าย ฝ่ายเนิร์สซิ่งโฮม ตอบส่งๆ ไปอย่างนั้น เพราะ นับจาก 5 มีนาคม 2566 หายจ้อย ทั้งไลน์ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ ที่เคยให้ไว้ 083-429-0339 / 098-461-7114 / 08-1963-0244 Line id 083-429-0339 ไม่สามารถติดต่อได้อีกต่อไป

ผู้เสียหายจึงตัดสินใจ เดินทางจากกรุงเทพฯไปสำนักงาน ที่ปรากฏบนเว็บไซต์ ** ห้างหุ้นส่วนจำกัด xxx เนอร์สซิ่ง โฮม ที่ตั้ง xxx หมู่ 1 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่พอมาถึง โป๊ะแตกเลยจ้า กลายเป็นร้านซ่อมจักรยานยนต์ ซะงั้น คนที่ร้าน บอก ไม่รู้จัก xxx เนอร์สซิ่ง โฮม ตอนแรก ก็คิดว่า แก๊งนี้ ไปเอาบ้านเลขที่คนอื่น มาแอบอ้าง จดทะเบียน บริษัท เพื่อหลอกเอาเงินคนอื่น แต่ เจ้าของร้านซ่อมจักรยานยนต์ ก็บอกว่า เนี่ย มีหมายศาล มาติดเยอะแยะ แต่ไม่ได้สนใจ** ผู้เสียหาย ก็คิดในใจ อ้าวแฮะ ผิดสังเกต ป้ะ หมายศาล มาติดถึงหน้าบ้าน ไม่คิดหาที่มา - ที่ไป หรือ แจ้งตำรวจ แล้วหมายศาล มาเยอะขนาดนี้ แสดงว่า มีเหยื่อถูกหลอก เยอะมาก

หลังจาก คว้าน้ำเหลว ไปตามหาคนโกง ผู้เสียหาย จึงนำเรื่องนี้ มาขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค วันที่ 15 มีนาคม 2566 ** หลังจากเจ้าหน้าที่รับฟังเหตุการณ์ มีความคิดจะช่วยไกล่เกลี่ยให้ จึงทดลอง โทรศัพท์ ไปหาคู่กรณี ตามเบอร์ที่ปรากฏหน้าเว็บไซต์ “ xxx เนอร์สซิ่งโฮม “ .. ตามคาด ติดต่อไม่ได้ ทุกเบอร์

เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงบอก ผู้เสียว่า จะช่วยเหลือด้วยการส่งเรื่องไปถึง กระทรวงแรงงาน เพื่อตรวจสอบ อดีตพี่เลี้ยง ที่เป็นต่างด้าวชาวลาว เพราะมีชื่อและหลักฐานจากวีซ่า พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหาย ไปแจ้งความตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

แต่... แทบไม่น่าเชื่อหู เพราะผู้เสียหาย บอกว่า ไปมาแล้ว แต่ ตำรวจ ไม่รับ แจ้งความ อ้างว่า เป็นคดีแพ่ง ต้องไปฟ้องศาลแพ่ง เรียกเงินมัดจำคืนเอาเอง เออนะ! เป็นคดีแพ่ง ก็ต้องลงบันทึกประจำวันให้ก่อนมั้ย

สิ่งที่ตำรวจ บอกมา อีกอย่างคือ ต้องเป็น อาญา เท่านั้น ถึง รับทำคดี ... นี่เองกระมัง ที่ ” xxx เนอร์สซิ่ง จอมหลอกลวง “ เห็นช่องโหว่ทางกฏหมาย จึงใช้เล่ห์กล หลอกเอาเงิน โดยเลี่ยงคดีอาญาฐานฉ้อโกง ด้วยการ รับเงินมัดจำ แต่ส่งคน แต่มาแค่ 2-3 วัน จะอ้างว่า บริษัท ผิดไม่ได้ เพราะผู้รับจ้าง ไม่รับผิดชอบการทำงาน ไม่เกี่ยวกับบริษัท มันทำให้มองเห็นภาพได้ว่า พวกนี้ ทำเป็นขบวนการ ด้วยการ เวียนคนไปรับจ้างแต่ละบ้าน แค่ 2-3 วัน โดยหลอกเอาเงินค่ามัดจำบ้านละ 1.3 หมื่นบาทลองคิดดูสิว่า เวียนเทียน ขนาดนี้ จะได้เงินเข้ากระเป๋าไปเท่าไหร่ เพราะบางบ้าน ก็ไม่อยากเสียเวลาเอาผิดทางคดี

แต่ผู้เสียหายที่มาร้องมูลนิธิผู้บริโภครายนี้ ไม่ยอมปล่อยให้คนชั่วลอยนวล .. เพราะเย็นวันที่ 15 มีนาคม จึงบุกไปสืบอีกรอบ ที่ ร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ที่เดิม คราวนี้ ไปเดินสอบถามคนแถวนั้น ซึ่งก็โชคดี มีคนแจ้งเบาะแส จนตามเจอตัว เจ้าของ เนิร์สซิ่งโฮม อยู่ ในสำนักงาน เป็นห้องแถว 1 คูหา ถัดจากร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ แค่บ้านกั้น 3 หลัง และวันนั้น ผู้เสียหาย ยังเห็นต่างด้าว 3-4 คน ในสำนักงานด้วย, ผู้เสียหาย จึงเข้าไปทวงเงินมัดจำ , เมื่อรู้ตัวว่าหนีไปไหนไม่รอด ก็รับปาก จะคืนเงินมัดจำให้เป็นวันถัดไป แต่ ผู้เสียหาย รู้อยู่แก่ใจ ไม่ได้เงินคืน แน่นอน จึงตัดสินใจ พาตัวหาตำรวจ เมื่อโดน ขู่ ไม่จ่ายเจอคดีอาญานะ คนโกง ก็เลยต่อรองขอจ่าย 3 พันบาท ก่อน ส่วนอีก 1 หมื่น ของค่ามัดจำ จะเอามาให้ วันรุ่งขึ้น สุดท้ายหายจ้อย ตอนนี้ ผู้เสียหาย ต้องฟ้องคดีอาญาแล้ว ละ

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สรุปเหตุจากเคสนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกต กลโกง ของ xxx เนิร์สซิ่งโฮม

1. “ xxx เนอร์สซิ่งโฮม “ ยังเปิดเว็บไซต์อยู่ ณ เวลานี้

2. ตรวจสอบจากเว็บไซต์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบ เลขทะเบียน 0133565003757 วันที่จดทะเบียน 8 สิงหาคม 2565 ทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท แจ้งสถานะ จนถึง มีนาคม 2566 ยังดำเนินกิจการ ประกอบกิจการบริการรับเลี้ยงเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ คนเฝ้าไข้ แม่บ้าน แม่ครัว และ พนักงานรักษาความปลอดภัย จากประเด็นนี้ พบว่า การยื่นจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ ทำได้ง่ายมาก เพราะ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ไม่มีมาตรการตรวจสอบ ผู้ยื่นขอ จึงเป็นช่องโหว่ให้กับมิจฉาชีพ ใช้เป็นเกราะทำธุรกิจหลอกลวง

3. ผู้เสียหาย จาก “ xxx เนอร์สซิ่งโฮม “ ซึ่งมาขอความช่วยเหลือจาก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยอมรับว่า ที่ตัดสินใจเลือกว่าจ้าง เพราะเปิดเว็บไซต์ เห็นรีวิว ดี ซึ่งมี่ข้อน่าสังเกตว่า อาจหาคน มาเขียน อวย ก็ได้ หรือ หากมีเมนท์ ตำหนิ , แจ้งเตือนภัย อาจลบทิ้ง

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงมีข้อแนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการ ว่าจ้าง พวกเนิร์สเซอรี่ หรือ เนิร์สซิ่งโฮม ควรตรวจสอบไปยัง กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ดูแลเรื่องนี้ โดยเฉพาะ ระยะเวลาเปิดดำเนินการ ที่ยาวนาน บ่งบอกความสำเร็จ และ เป็นที่ไว้ใจของผู้ใช้บริการ ที่สำคัญ ควรตรวจสอบ ไปที่ กองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่จากเคสผู้เสียหายรายนี้ นึกไม่ถึงว่า ต้องตรวจสอบไปถึงขั้นนั้น

1. สำนักงาน ที่ปรากฏบนเว็บไซต์ ห้างหุ้นส่วนจำกัด xxx เนอร์สซิ่ง โฮม ที่ตั้ง xxx หมู่ 1 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่ปรากฏว่า เป็นร้านซ่อมจักรยานยนต์ ซึ่งมีข้อผิดสังเกต ที่เจ้าของร้าน บอกว่า มีหมายศาล มาติดเยอะแยะ แต่ไม่ได้สนใจ ลองคิดกลับกัน ถ้าประชาชนทั่วไป เจอหมายศาล มาติดหน้าบ้าน เพราะบ้านเลขที่ของเรา ถูกเอาไปแอบอ้างจดทะเบียนธุรกิจหลอกลวงผู้คน ต้องคิดหาที่มา - ที่ไป หรือ แจ้งตำรวจ ตั้งแต่ครั้งแรก แต่... ร้านซ่อมจักรยานยนต์ ทำเพิกเฉย ทั้งที่มีหมายศาลมาแปะเยอะแยะมากมาย ทำไม ไม่แจ้งตำรวจ มีคนมาแอบใช้เลขที่บ้าน แต่กลับเฉย แสดงถึง รู้เห็นป็นใจ หรือไม่ แถม สำนักงานของเนิร์สซิ่ง โฮม ที่โกง ยังถัดจากร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ แค่บ้านกั้น 3 หลัง

2. กรณี เคส ของ ผู้เสียหาย ที่มาขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งบอกว่า ตำรวจ ไม่รับแจ้งความ อ้างว่า เป็นคดีแพ่ง ให้ผู้เสียหายไปฟ้องเอา นี่แหละ เป็นสาเหตุ ที่ทำให้ มิจฉาชีพเห็นช่องโหว่ทางข้อกฎหมาย ด้วยการใช้วิธีเก็บเงินค่ามัดจำ แล้วส่งคนมาทำงาน 3-7 วัน เพื่อเลี่ยงคดีอาญา ดังนั้น ตำรวจ ต้องมองในมุม ที่ยึดประโยชน์ของผู้เสียหายเป็นหลัก เบื้องต้น ควรรับแจ้งความ ต้องคิดวิธีให้ผู้บริโภค เพื่อปิดช่องทางมิจฉาชีพ อย่างไรก็ตาม มีตำรวจบางท้องที่ เขียนบันทึกประจำวันให้ , บางท้องที่ ทำคดีอาญา ให้ ช่วยส่งหมายระงับบัญชีมิจฉาชีพ ส่งไปถึงแบงก์ให้ดำเนินการ ซึ่งเห็นได้ว่า ความเท่าเทียมข้อกฏหมาย มีการตีโจทย์ที่แตกต่างกัน ถึงแม้เป็นกฏหมายเรื่องเดียวกัน แต่อยู่ที่ดุลพินิจ ของ พนักงานสอบสวน ซึ่งไม่ควรเป็นแบบนั้น

ในส่วนของผู้เสียหายรายนี้ ที่จ่ายค่ามัดจำให้กับ “ xxx เนอร์สซิ่งโฮม” แต่ถูกโกง ถือว่า เข้าข่ายคดีอาญา ฐานฉ้อโกง ดังนั้น ผู้เสียหาย หากจะเอาผิดให้ถึงที่สุด ต้องจ้างทนายความเพื่อดำเนินการส่งฟ้องชั้นศาล แต่หากเคสนี้ เป็นคดีแพ่ง ตามที่ตำรวจ อ้างถึง หากผู้เสียหายต้องการ ฟ้อง ไปที่ “ ศาลแผนกคดีผู้บริโภค “ ก็พร้อมให้คำปรึกษาด้าน คดีความ ตลอดเวลา เพราะมีเป้าหมายขอร่วมหยุดยั้งวงจรมิจฉาชีพ ให้หมดไป และขอส่งต่อเหตุการณ์นี้ให้เป็นข้อเตือนภัยกับทุกคน