มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์ 02 248 3737
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์
Consumer Thai Facebook page

< กลับไปหน้ารวมข่าว

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เรียกร้อง สนง.อัยการสูงสุด ยกเลิก MOU กับ แพทยสภา

เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

เขียนเมื่อ: 22-01-2023 20:54

หมวดหมู่: บริการสุขภาพ

ภาพประกอบข่าว

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เรียกร้อง สนง.อัยการสูงสุด ยกเลิก MOU กับ แพทยสภา ปมช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ศัลยแพทย์ ชี้ ขาดความเหมาะสม กระทบต่อความเป็นอิสระและการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการ อาจทำผู้ป่วยไม่ได้รับความเป็นธรรม

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับนักวิชาการด้านกฎหมายฯ เรียกร้องสำนักงานอัยการสูงสุด ยกเลิก MOU กับ แพทยสภา ปมให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ศัลยแพทย์ ชี้ ขาดความเหมาะสม กระทบต่อความเป็นอิสระและการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการ ทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ศัลยแพทย์ ( MOU ) โดยมี อัยการสูงสุด ,นายกแพทยสภา , และ ประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม เมื่อ วันที่ 15 ธันวาคม 2565 นับเป็นสิ่งที่สร้างความคลางแคลงใจต่อประชาชนที่เป็นผู้ป่วยหรือผู้รับบริการสาธารณสุข เพราะหากศัลยแพทย์ถูกร้องเรียนหรือถูกฟ้องร้องจะได้รับการปรึกษาหารือทางกฎหมายจากอัยการ คำถามสำคัญคือ เหตุใดแพทยสภาจึงต้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมายให้แก่หมอศัลยกรรมจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นกรณีพิเศษ และการทำ MOU นี้จะส่งผลทำให้อัยการมีความเห็นทางกฎหมายที่เอนเอียงไปกับฝ่ายศัลยแพทย์หรือไม่

วันนี้ ( 20 มกราคม 2566 ) นักวิชาการด้านกฎหมายสุขภาพและคุ้มครองผู้บริโภค ไพศาล ลิ้มสถิตย์ กรรมการบริหารศูนย์กฎหมายสุขภาพและจริยศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเห็นว่า องค์กรอัยการจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติ เพราะอัยการมีบทบาทหน้าที่พิจารณาสั่งฟ้องคดีอาญาที่ประชาชนที่ได้รับความเสียหายร้องทุกข์ในคดีทางการแพทย์ อีกประเด็นที่น่ากังวลคือ หากพนักงานอัยการที่เป็นผู้บริหารให้คำปรึกษาแก่ศัลยแพทย์ แพทยสภาหรือราชวิทยาลัยศัลยแพทย์อาจทำให้มีผลผูกพันต่อการสั่งคดีทางอาญาหรือไม่ และอาจส่งผลต่อความเป็นอิสระ เที่ยงธรรมของพนักงานอัยการผู้สั่งคดี กล่าวคือ อัยการอาจสั่งไม่ฟ้องหมอศัลยกรรมในคดีต่างๆ เพราะเชื่อในข้อเท็จจริงของฝ่ายแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับความเสียหายจากการทำศัลกรรมเสริมความงามหรือการผ่าตัดอื่นๆ ไม่ได้รับโอกาสพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล

กชนุช แสงแถลง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) กล่าวว่า มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคมีความกังวลว่า การร้องเรียนหรือคดีทางการแพทย์ที่ประชาชนได้รับความเสียหายจากการทำศัลยกรรมเสริมความงาม น่าจะมีแนวโน้มว่าเพิ่มสูงขึ้นตามกระแสซึ่งมีความเสี่ยงที่ผู้รับบริการจะได้รับความเสียหายจากการรับบริการดังกล่าวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว เพื่อคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ศัลยแพทย์ มีการจัดประชุมหรืออบรมร่วมกันระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดกับแพทยสภา ก็อาจทำให้ประชาชนมองว่า อัยการอาจเข้าข้างฝ่ายแพทย์ เมื่อศัลยแพทย์ถูกฟ้องร้องหรือร้องเรียน ก็ได้รับคำปรึกษาแนะนำทางกฎหมายจากอัยการอย่างใกล้ชิด อัยการไม่สั่งฟ้องแพทย์เพราะเห็นว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนทางการแพทย์ แล้วประชาชนจะไปหันหน้าไปพึ่งใคร
ไพศาล ลิ้มสถิตย์ กล่าวว่า การทำ MOU ฉบับนี้ จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการทั่วประเทศ และอาจขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 248 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติให้พนักงานอัยการมีอิสระในการพิจารณาสั่งคดีและการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม และปราศจากอคติทั้งปวง และยังอาจขัดต่อพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 ตลอดจนขัดต่อระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน พ.ศ. 2562 ข้อ 19 ที่กำหนดว่า พนักงานอัยการจะต้องให้คำปรึกษาแก่ประชาชนโดยเสมอภาคกัน การที่อัยการจะมีปฏิสัมพันธ์กับแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยที่แพทย์บางรายอาจเป็นคู่ความหรือมีความเกี่ยวข้องในคดีทางการแพทย์ เช่น เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญที่จะเบิกความในศาลในฐานะผู้แทนราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ ฯ ย่อมกระทบต่อความเป็นกลาง ความเที่ยงธรรมในการดำเนินคดีของอัยการ

ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเห็นว่า องค์กรอัยการเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีความน่าเชื่อถือและมีความสำคัญต่อกระบวนการยุติธรรม เป็นที่พึ่งสุดท้ายในการได้รับความเป็นธรรม จึงควรทบทวนความจำเป็นและความเหมาะสมในการทำ MOU ฉบับนี้ มิฉะนั้น จะทำให้ประชาชน ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในอัยการและกระบวนการยุติธรรม แล้วประชาชนจะหันหน้าไปพึ่งใคร....

สำหรับ ผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิ สามารถปรึกษาและร้องเรียนได้ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซอยวัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ติดต่อร้องทุกข์(ศูนย์พิทักษ์สิทธิ) โทร 089-788-9152 หรือ complaint@consumerthai.org

ประสานงานติดต่อ : ชนิษฎา 081 356 3591


ปรึกษา ร้องเรียน
สอบถามเพิ่มเติม