มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์ 02 248 3737
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์
Consumer Thai Facebook page

< กลับไปหน้ารวมข่าว

ควบรวมTRUE-DTACทำแพคเกจแพง

เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

เขียนเมื่อ: 19-10-2023 15:52

หมวดหมู่: สื่อและโทรคมนาคม

ภาพประกอบข่าว

หลังควบรวม แพคเกจแพง ผู้บริโภคหมดทางเลือก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและองค์กรผู้บริโภคจี้ กสทช.ตรวจสอบแพคเกจทุกค่าย

องค์กรผู้บริโภค เรียกร้อง กสทช. ต้องนำข้อมูลออกมาเปรียบเทียบเปิดเผยต่อสังคม เหตุมีกระบวนการจับมือผูกขาดราคา ชี้เสียงข้างมาก กสทช. หนุนTRUE ควบ DTAC ยังเป็นข้อกังขา

นับจากวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ลงมติเห็นชอบการควบรวม 2 เครือข่ายโทรคมนาคมใหญ่ TRUE- DTAC ท่ามกลางเสียงคัดค้านอย่างหนักของทั้งองค์กรผู้บริโภค พรรคการเมือง ภาคประชาชน หรือแม้แต่ กสทช. 2 เสียงข้างน้อย ถึงแม้ออก 2 เงื่อนไข ต้องลดค่าบริการเฉลี่ย 12 เปอร์เซ็นต์ และให้แยกแบรนด์ทำตลาดกันไปก่อน 3 ปี แต่หลังจาก TRUE- DTAC แจ้งแผนควบรวมเสร็จสมบูรณ์ เมื่อ 1 มีนาคม 2566 โฉมหน้าใหม่ของการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมก็เปลี่ยนไปทันทีแบบไม่ต้องรอ 3 ปี อย่างที่ กสทช. วางมาตรการไว้ นั่นเพราะ TRUE- DTAC- AIS ปรับขึ้นอัตราค่าบริการเท่ากันแบบไม่ได้นัดหมาย ทำให้แพคเกจที่เป็นธรรมหายไปทันที ผู้บริโภคจึงหมดทางเลือกใช้บริการ ถึงแม้เรียกร้องให้ กสทช. มาจัดการแก้ปัญหา แต่ไม่มีสัญญาณตอบกลับ กระทั่ง 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ทำหนังสือไปถึงเพื่อถามหาความรับผิดชอบ

จากประเด็นข้างต้น วันนี้ (19 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ) นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เสริมว่า กว่า 9 เดือนหลังควบรวม TRUE-DTAC เกิดปัญหาด้านราคาและคุณภาพบริการ ล้วนมีต้นเหตุจากความเพิกเฉยของ กสทช. อีกทั้งยังไม่เห็นการลดค่าบริการเฉลี่ย 12 เปอร์เซ็นต์ ตามเงื่อนไขมาตรการเฉพาะของผู้ประกอบการในการควบรวมธุรกิจ และยังพบ AIS คิดค่าบริการที่ใกล้เคียงกัน จนเหมือนเป็นการผูกขาดทางราคา โดยยังไม่เห็นกระบวนการติดตามตรวจสอบของ กสทช. นอกจากการรอฟังรายงานของผู้ประกอบการ ดังนั้น หาก กสทช. มีความจริงใจปกป้องสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค ต้องออกมาตรการตรวจสอบ-บังคับให้ผู้ประกอบการมือถือทุกค่ายเปิดเผยโครงสร้างแพคเกจต่อผู้บริโภค แต่เวลานี้ยังถูกปิดกั้นการเข้าถึง ดังนั้น จึงขอเสนอให้ กสทช. เปิดเผยข้อมูลแพ็คเกจค่าบริการของค่ายมือถือทุกค่ายผ่านเว็บไซต์ กสทช. รวมถึงเงื่อนไขมาตรการเฉพาะที่ผู้ประกอบการจัดทำรายงานส่งให้ กสทช. และสร้างช่องทางให้ผู้บริโภคสามารถเข้าไปตรวจสอบแพ็คเกจและเงื่อนไขการให้บริการของค่ายมือถือโดยง่าย และมีระบบการส่งข้อมูลความคิดเห็น และข้อร้องเรียนโดยตรงไปที่ กสทช. ที่นอกเหนือจากเบอร์ติดต่อ 1200 โดยที่ไม่ใช่ข้อมูลที่มาจากการรายงานของผู้ประกอบการแต่เพียงฝ่ายเดียว

เภสัชกรหญิง ชโลม เกตุจินดา อุปนายกสมาคมผู้บริโภคสงขลา ให้สัมภาษณ์กับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ว่า ปัญหาเกิดจาก กสทช. ไม่ยอมรับฟังเสียงคัดค้านจาก องค์กรผู้บริโภค ที่ชี้ให้เห็นถึงการผูกขาดและฮั้วราคา รวมถึงคุณภาพการให้บริการเครือข่ายที่แย่ลง หากปล่อยให้ควบกิจการ แต่กลับเร่งรัดลงมติด้วยเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 โดยเฉพาะข้อกังขาที่ นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ซึ่งคุมนโยบายด้านคุ้มครองผู้บริโภค แต่กลับถือข้างเอกชน ด้วยการ ใช้สิทธิ์โหวตซ้ำ (Double Vote) จนทำให้ดีล TRUE-DTAC บรรลุผล โดยอาศัยช่องโหว่ที่ระบุว่า “ ไม่มีข้อบังคับเรื่อง “อนุญาต” หรือ “ไม่อนุญาต “ ซึ่งเป็นปัญหาด้านความหมายของคำ จนกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ TRUE-DTAC ควบรวมไปแบบเนียนๆ แต่หลังจากนั้น ได้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค เพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ต ของ DTAC แย่ลง ทั้งที่ยังอยู่ระหว่างแยกแบรนด์ 3 ปี ความเร็วถูกลด ทั้งที่ซื้อแพคเกจราคาแพง แต่กลับหมดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีการกระตุ้นให้ลูกค้าไปใช้เครือข่ายของ TRUE ที่สำคัญ ประเด็นที่ผู้ประกอบการใช้วิธีการแบบ “ส่วนลดเฉลี่ย” หมายถึง เอาคนที่มีกำลังจ่าย มาหารเฉลี่ย ให้คนไม่มีกำลังจ่าย ทั้งที่ส่วนลดค่าบริการเฉลี่ย 12 เปอร์เซ็นต์ ต้องมีแพคเกจที่เป็นธรรมกับผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าทุกคนโดยไม่มีข้อยกเว้น
ดังนั้น กสทช. ควรต้องเร่งมือในการกำกับดูแลตามเงื่อนไขที่วางไว้ และต้องรายงานให้สังคมทราบด้วย เพราะความล่าช้าในการกำกับดูแล ไม่เพียงส่งผลต่อผู้บริโภคในกรณี TRUE -DTAC เท่านั้น แต่จะเป็นบรรทัดฐานไปสู่การอนุญาตควบรวมอื่นๆ เช่น AIS กับ 3BB ในกิจการอินเทอร์เน็ตบ้าน ทำให้ผู้บริโภคตกอยู่ในสภาวะถูกลอยแพ

ส่วนการที่ กสทช. มาให้ข่าวเมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมาว่า เตรียมจัดทำ “ดัชนีราคาค่าบริการโทรคมนาคม “ ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกปี 2567 และจะจัดทำในทุกไตรมาสต่อไป เพื่อหาคำตอบ ประเด็นที่ถูกร้องเรียนว่า คนไทยจ่ายค่าบริการแพงขึ้น ประเด็นนี้ อุปนายกสมาคมผู้บริโภคสงขลา ชี้ว่า อาการเพิ่งตื่นแบบนี้คือปัญหา เพราะทำให้ผู้บริโภคไม่เชื่อมั่นดัชนีราคาที่ออกมาจะเป็นกลาง เพราะฉะนั้น กสทช. ต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจ ซึ่งผู้บริโภคและ องค์กรผู้บริโภค ต้องร่วมกันจับตา เพราะในสถานการณ์ที่เป็นเศรษฐกิจดิจิตอล กสทช. ต้องสนับสนุนทุกกลุ่ม ต้องไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และขอฝากไปถึงรัฐบาลให้จับตา กสทช.ให้ดี เพื่อพิสูจน์ว่าจะเป็นตัวคานงัดในการสร้างเศรษฐกิจดิจิตอล หรือ จะทำให้นโยบายที่รัฐบาล ต้องการขับเคลื่อนเกิดสะดุด หรือไม่


ปรึกษา ร้องเรียน
สอบถามเพิ่มเติม