มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์ 02 248 3737
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์
Consumer Thai Facebook page

< กลับไปหน้ารวมข่าว

ร้อยละ 81 ผลสำรวจผู้บริโภคอันดับ 1 ชี้ชัดผลกระทบTRUEควบDTAC

เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

เขียนเมื่อ: 15-12-2023 11:53

หมวดหมู่: สื่อและโทรคมนาคม

ภาพประกอบข่าว

ร้อยละ 81 ผลสำรวจผู้บริโภคอันดับ 1 ชี้ชัดผลกระทบTRUE-DTAC ควบรวมทำอินเทอร์เน็ตลดสปีดผิดเงื่อนไข แถมปรับแพ็กเกจตามอำเภอใจ จี้ ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา กระตุ้น กสทช.ต้องจริงใจ-จริงจัง จัดการผู้ประกอบการที่เอาเปรียบผู้บริโภค

จากการที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเปิดช่องทางระบบออนไลน์เพื่อสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้บริการเครือข่ายมือถือหลังเกิดกระแสเสียงผู้บริโภคจำนวนมากต่างเจอปัญหาความเร็วอินเทอร์เน็ตคุณภาพต่ำสวนทางค่าบริการแพง ซึ่งเหตุนี้เกิดขึ้นหลังการควบรวมTRUE-DTAC อย่างเบ็ดเสร็จนับจาก 1 มีนาคม 2566 อีกทั้งยังเจอปัญหาค่าบริการ TRUE-DTAC-AIS ปรับขึ้นแพงเท่ากัน ผู้ใช้บริการจึงหมดทางเลือก ทำให้เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ สภาผู้บริโภค ได้หารือร่วมกับคณะกรรมการ กสทช. เพื่อขอคำชี้แจงปมค่าบริการแพงและแนวทางแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งฝ่าย กสทช.ต้องการได้หลักฐานเชิงประจักษ์

วันนี้ (15 ธันวาคม 2566) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และหน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร สภาองค์กรของผู้บริโภค จึงร่วมกันทำแบบสำรวจผลกระทบของผู้บริโภคหลังการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนผ่าน GOOGLE FORM ตั้งแต่วันที่ 9 ถึง 23 พฤศจิกายน 2566 มีผู้ตอบแบบสำรวจทั้งสิ้น 2,924 ราย โดยผลการสำรวจพบ 5 ปัญหาใหญ่ที่สุดถึงร้อยละ 81 คือ สัญญาณอินเทอร์เน็ตช้า , สัญญาณหลุดบ่อย ,โปรโมชันเดิมหมดต้องใช้โปรโมชันที่แพงขึ้น, ค่าแพ็กเกจ ราคาเท่ากันหมดทำให้ไม่มีทางเลือก, และ call center โทรติดยาก ทั้งหมดนี้เป็นผลสำรวจความเห็นของผู้ใช้บริการมือถือที่ล้วนได้รับผลกระทบหลังการควบTRUE-DTAC

จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ผู้บริโภคที่ตอบแบบสำรวจฯ มีข้อเสนอแนะไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายต้องปรับปรุงคุณภาพสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ดีกว่าเดิม หรือ ดีเท่ากับช่วงก่อนควบรวมกิจการ ในเมื่อ TRUE-DTAC ควบรวมกันแล้ว อุปกรณ์เสาสัญญาณควรนำไปติดตั้งในพื้นที่ห่างไกลเพื่อขยายให้ครอบคลุมจุดรับสัญญาณ พร้อมปรับปรุงโครงข่ายให้มีความเสถียรเพียงพอต่อความต้องการ และสัมพันธ์กับความหนาแน่นของผู้ใช้งาน สัญญาณความเร็วต้องใช้ได้จริงตรงตามแพคเกจที่ลูกค้าจ่ายเงินซื้อ เพราะปัจจุบันไม่สอดคล้องกับราคาที่จ่าย ดังนั้น ต้องนำข้อมูลการใช้งานของผู้บริโภคมาวิเคราะห์เพื่อให้บริการสัญญาณที่เหมาะสมที่สุด ส่วนเพดานอัตราค่าบริการต้องลดเฉลี่ยลง 12 เปอร์เซ็นต์ทันที โดยไม่มีข้ออ้าง ในเมื่อเป็นเงื่อนไขการควบรวม TRUE- DTAC ที่พ่วงมากับมติ กสทช. เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ที่กำหนดต้องดำเนินการภายใน 90 วัน หลังควบรวมสำเร็จ แต่เวลานี้เลยกำหนดมาแล้ว แต่กลับยังเห็นการเพิกเฉย

อีกประเด็นของปัญหาสำคัญที่ผู้บริโภคสะท้อนผ่านการสำรวจความคิดเห็นมาที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ นั่นคือ ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือปรับแพคเกจตามอำเภอใจโดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา ต้องให้บริการตามเงื่อนไขที่ลูกค้าซื้อแพ็กเกจเท่านั้น หากมีเหตุขัดข้องที่เป็นความผิดพลาดของผู้ประกอบการ ต้องชดเชยอย่างเหมาะสมให้กับลูกค้า ที่สำคัญต้องใส่ใจดูแลปัญหาอย่างทันท่วงที ด้วยการมีเจ้าหน้าที่ call center ที่เป็นมนุษย์อย่างเพียงพอตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่ ใช้ AI ( เอไอ ) อย่างทุกวันนี้

นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นที่เป็นข้อเสนอแนะจากผู้บริโภคฝากไปถึง คณะกรรมการ กสทช. อาทิขอให้พิจารณามติควบรวม TRUE- DTAC เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นได้สะท้อนความเป็นจริงถึงสภาพตลาดที่ก่อให้เกิดการผูกขาด ผู้ใช้บริการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสินค้าและบริการ อีกทั้ง กสทช.ต้องมองโลกในความเป็นจริงให้มากกว่านี้ ศึกษาผลกระทบการควบรวมเครือข่ายมือถือให้รอบคอบ ต้องนึกถึงประโยชน์เพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าเป็นแค่เสือกระดาษ ต้องจริงใจ-จริงจัง กำหนดบทลงโทษที่เข้มแข็งจัดการผู้ประกอบการที่เอาเปรียบผู้บริโภค อย่างทันท่วงที โดยอิงตามมาตรฐานสากล ที่สำคัญต้องเปิดทางให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการเอาผิดผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการทุกเครือข่ายในระบบออนไลน์ เรื่อง ผลกระทบของผู้บริโภคหลังการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จะนำไปเสนอต่อผู้ให้บริการและกสทช. เพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค


ปรึกษา ร้องเรียน
สอบถามเพิ่มเติม