ลื่นล้มบาดเจ็บจากความประมาทของผู้อื่น เรียกค่ารักษาพยาบาล-ฟ้องแพ่งได้
เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
เขียนเมื่อ: 20-03-2025 10:15
หมวดหมู่: อื่นๆ

ลื่นล้มบาดเจ็บจากความประมาทของผู้อื่น เรียกค่ารักษาพยาบาล-ฟ้องแพ่งได้
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะการลื่นล้มในสถานที่ต่างๆ จนได้รับบาดเจ็บ (ที่ไม่ใช่ในบ้านของตัวเอง ) พิจารณาจากตัวอย่างสถานการณ์ต่อไปนี้ เช่น เดินสะดุดสายไฟบริเวณบูธขายสินค้าภายในห้างฯ หรือสถานที่จัดงานอื่นๆ เจ็บน้อย-เจ็บมากแล้วแต่กรณี เพราะบางคนลื่นล้มกระแทกกับพื้นอย่างแรงถึงขั้นกระดูกเกิดการแตกหัก หรือกำลังเดินเพลินๆ อยู่ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่คุณไม่รู้ว่ากำลังมีการซ่อมแซม ทำให้เกิดสะดุดตรงเครื่องมือก่อสร้างที่ถูกซุกไว้ใต้พรมจนล้มลงได้รับบาดเจ็บ ถึงแม้มีป้ายข้างประตูเขียนว่า“ พื้นที่ก่อสร้างระวัง” แต่ป้ายกลับถูกปิดทับด้วยบันไดที่พิงกำแพง ดังนั้นคุณจึงมองไม่เห็น นี่เป็นเหตุที่ทำให้คุณมีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายได้ การลื่นล้มถึงแม้เกิดขึ้นภายในเสี้ยววินาที แต่ผลสะท้อนกลับ ได้นำไปสู่อาการบาดเจ็บในระยะยาว ทั้งการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง บางคนที่ไม่มีเงินเดือนประจำ ต้องสูญเสียรายได้เพราะต้องหยุดพักรักษาตัว ดังนั้น หากคุณประสบอุบัติเหตุลื่นล้มเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของผู้อื่น ( ที่มิใช่ตัวคุณเองกระทำการประมาท ) พวกเขาต้องชดเชยความสูญเสียที่คุณได้รับ ไม่เว้นแม้แต่ในจุดบริการรับส่งพัสดุ ยังไงน่ะเหรอ สมมุติคุณเดินเข้าไปแล้วเกิดลื่นล้มได้รับบาดเจ็บ ต้นตอมาจากอุปกรณ์บางอย่างที่บริษัทขนส่งเป็นเจ้าของ นี่ละสามารถเป็นเหตุให้คุณเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลรวมถึงฟ้องร้องทางแพ่งได้ด้วย
ขอเล่าเคสที่มาร้องเรียนกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อขอความช่วยเหลือ เจ้าตัวเล่าว่า ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ได้ไปใช้บริการส่งพัสดุที่บริษัท XXX พอก้าวเท้าเข้าไป ด้วยความไม่ทันระวังได้เหยียบแผ่นเหล็กซึ่งมีลักษณะลื่น จนล้มกระแทกได้รับบาดเจ็บและมีทรัพย์สินเสียหายบางส่วน ตอนนั้น พนักงานของบริษัทรับส่งพัสดุ ได้พาส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลใกล้เคียง แต่ไม่มีผู้บริหารของบริษัทรับส่งสินค้ามาติดต่อเพื่อรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลแม้แต่บาทเดียว ทีนี้ หลังจากรักษาตัวอยู่ประมาณ1อาทิตย์ อาการดีขึ้นจึงกลับบ้าน จากนั้นได้ทำเรื่องติดต่อไปยัง ผู้จัดการสาขารับส่งพัสดุ เพื่อเจรจาขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย ทั้ง ค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น
แต่คำตอบที่ได้รับ นั่นคือ จะชดใช้ค่าเสียหายให้แค่บางส่วน เมื่อได้คำตอบแบบนี้ ทำให้ผู้เสียหายมาร้องเรียนที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อขอความช่วยเหลือ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ ได้ทำหนังสือส่งไปถึงบริษัทรับส่งพัสดุเพื่อแจ้งเรื่องและมาเจรจาไกล่เกลี่ยร่วมกัน แต่หากไม่เป็นผล ก็อาจดำเนินการฟ้องแพ่งได้ ขึ้นกับผู้เสียหายจะตัดสินใจ .เอาละ! ระหว่างผลสรุปจากทั้ง2ฝ่ายจะออกมาอย่างไร ฝ่ายกฎหมาย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคมีข้อแนะนำ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้บริโภคต้องปกป้องตัวเอง เก็บหลักฐานให้ครบ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยเยียวยา สิ่งสำคัญคือต้องทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องเพื่อปกป้องสุขภาพและสิทธิ์ทางกฎหมาย
ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องดำเนินการหลังจากเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม เป็นข้อแนะนำหากผู้อื่นเจอเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน
-
ไปพบแพทย์ทันที แม้ว่าอาการบาดเจ็บอาจจะดูเล็กน้อยก็ตาม เพราะอาการบาดเจ็บบางอย่าง เช่น การถูกกระทบกระแทก หรือ การบาดเจ็บภายใน อาจไม่ชัดเจนในทันที
-
รายงานอุบัติเหตุให้เจ้าของพื้นที่ทราบโดยเร็วที่สุด ต้องให้บันทึกเหตุการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรและขอสำเนารายงานไว้เป็นหลักฐาน เอกสารนี้อาจมีความสำคัญในภายหลังหากคุณตัดสินใจยื่นเรียกร้องค่าชดเชย และอาจถึงขั้นฟ้องร้อง
-
ถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุ รวมถึงสภาวะอันตรายใดๆ ที่อาจส่งผลต่อการลื่นล้มของคุณ เช่น พื้นเปียก พื้นผิวไม่เรียบ หรือ แสงไม่ดี พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลการติดต่อจากพยานที่เห็นเหตุการณ์เกิดขึ้น
-
เก็บรักษาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุของคุณ เช่น เสื้อผ้าและรองเท้าที่คุณสวมใส่ในขณะเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงบันทึกทางการแพทย์และใบเสร็จรับเงินที่เกี่ยวข้องกับอาการบาดเจ็บของคุณ
-
เก็บบันทึกรายละเอียดของค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการลื่นล้มและอุบัติเหตุต่างๆ รวมถึงค่ารักษาพยาบาล สูญเสียค่าจ้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องจ่ายเอง ข้อมูลนี้จะมีความสำคัญเมื่อคำนวณมูลค่าของข้อเรียกร้อง
-
หากได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุลื่นล้ม สิ่งสำคัญคือการขอคำแนะนำทางกฎหมายจาก ทนายความที่มีประสบการณ์ สามารถช่วยให้คุณเข้าใจสิทธิและทางเลือกในการดำเนินคดี และเรียกร้องค่าชดเชย
-
สิ่งสำคัญอย่างมาก หลีกเลี่ยงการพูดคุยกับบริษัทประกันภัยของคู่กรณี เพราะอาจถูกบันทึกถ้อยคำโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ ชักจูงในทางใดทางหนึ่ง เช่น ปรับลดการเรียกร้องค่าชดเชย ซึ่งนั่นอาจส่งผลเสียต่อคดีของคุณได้ เพราะฉะนั้น หากเกิดเหตุการณ์นี้ ผู้เสียหายต้องปรึกษาฝ่ายกฏหมายของฝั่งตัวเองทันทีเพื่อป้องกันตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
หากถามว่า ผู้บริโภค สามารถฟ้องร้องจากการลื่นล้มจนบาดเจ็บได้หรือไม่? คำตอบคือ ได้! โดยช่องทางการฟ้องแพ่ง จากข้อมูล "ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ที่ระบุไว้ว่า ...ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น"
แต่การจะเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่? ต้องมาพิเคราะห์ดูเหตุผลตามข้อกฎหมาย คือหากจุดที่ผู้บริโภคเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม ก็ต้องดูว่า เจ้าของพื้นที่มีการจงใจ หรือประมาทเลินเล่อ ที่ไม่ใส่ใจดูแล หรือไม่มีการเตือนภัย ให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการหรือลูกค้า หรือไม่ ซึ่งหากพบมีการปล่อยปะละเลย ทำให้พื้นที่ไม่ปลอดภัย จนเป็นเหตุให้ผู้บริโภคที่ใช้บริการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มขึ้นมา เจ้าของพื้นที่นั้นๆ ก็ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามควร
แต่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 เป็นความรับผิดทางแพ่ง เบื้องต้นก็ต้องใช้การเจรจาเพื่อขอให้ชดใช้ค่าเสียหายตามควร ถ้าไม่ได้ผล ต้องฟ้องศาลเพื่อพิสูจน์ว่า มีการประมาทเลินเล่อหรือไม่คุณสามารถฟ้องคดีลื่นล้มและบาดเจ็บ หากคนอื่นมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์นั้น พวกเขาต้องชดเชยความสูญเสียที่คุณได้รับ แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายในกรณีลื่นล้มในห้างฯ ความท้าทายอยู่ที่การพิสูจน์ความรับผิด คุณต้องพิสูจน์และมีหลักฐาน ที่เป็นตัวการทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุ เช่นกัน ทางห้างฯ ก็ต้องไปหาหลักฐานไปพิสูจน์ในชั้นศาลเช่นกัน
ถึงแม้กระบวนการฟ้องร้องทางศาลกินระยะเวลายาวนานในการเรียกร้องสิทธิ แต่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ก็อยากให้ทุกท่านอย่าเพิกเฉยกับความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะคำตัดสินของศาล จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับผู้เสียหายรายอื่นๆ มีกำลังใจในการต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิของตัวเองและคนที่คุณรัก สามารถปรึกษา-ร้องเรียน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซ.วัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400, โทรศัพท์ 02 248 3734 ถึง 37, แฟกซ์ 02 248 3733, อีเมล complaint@consumerthai.org