มพบ.จี้ กสทช.แก้ปัญหาควบTRUE- DTAC กระทบผู้บริโภค
เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
เขียนเมื่อ: 22-12-2023 11:03
หมวดหมู่: สื่อและโทรคมนาคม


มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ยื่นหนังสือเรียกร้อง กสทช. เร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาผลกระทบของผู้บริโภคหลังการควบรวม TRUE – DTAC ที่ลามไปถึงเครือข่ายมือถือรายอื่น พร้อมแนบหลักฐานเชิงประจักษ์จากผลสำรวจเกือบ3พันราย
วันนี้ (22 ธ.ค. 66 )นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมด้วย นายธนัช ธรรมิสกุล หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร สภาองค์กรของผู้บริโภค เข้ายื่นหนังสือถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รวมถึง คณะอนุกรรมการเพื่อติดตามและประเมินผลการรวมธุรกิจตามประกาศ กสทช. โดยมี พลเอก กิตติ เกตุศรี ที่ปรึกษาประจำประธาน กสทช.เป็นตัวแทนรับหนังสือที่เรียกร้องให้ กสทช. เร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาผลกระทบของผู้บริโภคหลังการควบรวม TRUE – DTAC พร้อมแนบหลักฐานผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากเครือข่ายมือถือทุกระบบ ระหว่างวันที่ 9 - 23 พฤศจิกายน 2566 มีผู้ทำแบบสำรวจทั้งหมด 2,924 ราย ซึ่งใช้งานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยพบ 5 ปัญหาใหญ่มากที่สุดถึงร้อยละ 81 ได้แก่ สัญญาณอินเทอร์เน็ตช้า , สัญญาณหลุดบ่อย ,โปรโมชันเดิมหมดต้องใช้โปรโมชันที่แพงขึ้น, ค่าแพ็กเกจราคาเท่ากันหมดทำให้ไม่มีทางเลือก, และ call center โทรติดยาก ทั้งหมดนี้เป็นผลสำรวจความเห็นของผู้ใช้บริการมือถือที่ล้วนได้รับผลกระทบหลังการควบTRUE-DTAC
นอกจากนี้ ยังมีผู้บริโภคร้องเรียนได้รับข้อความสั้นจากผู้ให้บริการ ระบุว่าโปรโมชันปัจจุบันเดือนละ 299 บาท จะสิ้นสุดลง และนำเสนอโปรโมชั่นเดือนละ 349 บาท และค่าโทรส่วนเกินนาทีละ 1 บาท 50 สตางค์ หากต้องการใช้โปรโมชันเดิมให้กด 9668# ซึ่งหมายความว่า โปรโมชันจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ แม้ว่าโปรโมชันใหม่ที่นำเสนอ จะทำให้อัตราค่าบริการเฉลี่ยถูกลง แต่ทำให้ผู้บริโภครับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยไม่ยินยอมและอาจไม่มีความจำเป็น อีกทั้งค่าโทรส่วนเกินยังสูงถึง 1.50 บาท ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรการเฉพาะที่กำหนดขึ้น ที่ระบุว่า การกำหนดอัตราตามต้นทุนเฉลี่ยรายบริการ (Average cost pricing) ให้นำไปใช้กับกรณีค่าบริการส่วนเกินที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการรายการส่งเสริมการขายแบบร่วมบริการ (Bundle package) ด้วย การนำเสนอรายการส่งเสริมการขายในลักษณะเปลี่ยนโปรโมชั่นอัตโนมัติหากไม่กดยกเลิกนี้ ยังขัดกับประกาศ กสทช. เรื่อง การกำหนดและกำกับดูแลโครงสร้างอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในประเทศ ข้อ 18 ซึ่งกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตคงบริการตามรายการส่งเสริมการขายเดิมต่อไปเป็นลำดับแรกเมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งาน หากไม่มีรายการส่งเสริมการขายเดิม ให้เปลี่ยนไปให้บริการรายการส่งเสริมการขายขั้นเริ่มต้น และพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ตามข้อ 5 (2) ของประกาศ กสทช. เรื่อง การกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมฯ เนื่องจากเป็นการกำหนดเงื่อนไขในลักษณะที่เป็นการบังคับโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้บริโภคต้องใช้บริการโทรคมนาคมโดยผู้บริโภคไม่ประสงค์จะใช้บริการนั้น หรือเป็นเหตุให้ผู้บริโภคต้องรับภาระค่าบริการที่เพิ่มขึ้น จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ผู้บริโภคที่ตอบแบบสำรวจฯ มีข้อเสนอแนะไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายต้องปรับปรุงคุณภาพสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ดีขึ้น สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง มีความเสถียร ขยายให้ ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ และให้มีความเร็วที่ใช้ได้จริงตรงตามที่แพ็คเกจระบุไว้ , ลดราคาแพ็คเกจให้ถูกลง มีโปรโมชั่นให้เลือกหลากหลายในราคาที่สมเหตุสมผล ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม และเสนอให้ไม่ยกเลิกแพ็คเกจไม่อั้นไม่ลดสปีด , ที่สำคัญ ต้องให้บริการอย่างตรงไปตรงมา ทำตามเงื่อนไขที่แพ็คเกจระบุไว้ กรณีจะเปลี่ยนแพ็คเกจต้องมีการแจ้งล่วงหน้าและได้รับความยินยอมจากผู้บริโภคก่อนเปลี่ยนแปลงแพ็คเกจหรือปรับลดสปีด
นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นที่เป็นข้อเสนอแนะจากผู้บริโภคฝากไปถึง คณะกรรมการ กสทช. ขอให้ยกเลิกการควบรวมรวมธุรกิจโทรคมนาคม ระหว่าง TRUE และ DTAC เพราะหลังจากที่มีการควบรวมแล้ว ผู้บริโภคพบเจอปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตมีปัญหา ราคาค่าบริการแพงขึ้น แพ็คเกจไม่หลากหลาย ทั้งนี้จากแบบสำรวจผู้บริโภคให้ความเห็นว่ายังไม่เห็นประโยชน์ใดๆ ที่ผู้บริโภคจะได้รับโดยตรงหลังจากการควบรวม , ขอให้ควบคุมและตรวจสอบการให้บริการอย่างเข้มงวด โดยควบคุมคุณภาพของสัญญาณให้ได้มาตรฐาน กำหนดเกณฑ์ราคาที่เหมาะสม และตรวจสอบข้อมูลแพ็คเกจและบริการต่างๆ ว่าเป็นไปตามที่โฆษณาไว้หรือไม่ ,กำกับดูแลให้ผู้ประกอบการทำตามข้อตกลง มีมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ , สำคัญอย่างยิ่งต้องเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะจากทุกภาคส่วน
ด้าน นางสมพิศ กนกลดารมย์ หน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร สภาองค์กรของผู้บริโภค ที่มาร่วมยื่นหนังสือต่อ กสทช. เล่าถึงปัญหาที่ใช้โปรโมชันอินเทอร์เน็ต 199 บาท ค่าย AIS แต่ไม่สามารถใช้งานทั้งในบ้านและนอกสถานที่ เพราะสัญญาณหมุนตลอดเวลา ทำให้รู้สึกหงุดหงิดเวลาต้องส่งไฟล์งาน หรือมีคนอื่นส่งลิงก์มาให้แต่เปิดไม่ได้ เชื่อว่า เป็นเพราะการที่ตลาดมือถือไม่มีคู่แข่ง หลังจากการควบรวมทรู-ดีแทค ทำให้คุณภาพการให้บริการไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภค เพราะหากดีขึ้นจริง ต้องทำให้ค่าบริการถูกลงและต้องมาพร้อมกับคุณภาพที่ดีขึ้น
จากเหตุทั้งหมดข้างต้น มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงขอให้ กสทช. ศึกษาผลกระทบการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคมโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นที่ตั้ง โดยขอตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาภายใน 15 วัน และสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และหากเพิกเฉยให้มีคำสั่งปรับทางปกครองในอัตราสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด มิเช่นนั้นถือได้ว่าสำนักงาน กสทช. ละเลยต่อปัญหาของผู้บริโภคและละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ
อ่านผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคหลังการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม https://ffcthailand.org/news/impactofthetruedtacmerger
เอกสารประกอบ”ผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคหลังการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม สามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์นี้ https://drive.google.com/drive/folders/17_pKLOmn6SfoObCub5XHRdzQy4kwZcnm?usp=share_link