Heathy Forum ร่วมมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมประชาชน ยื่นหนังสือ สปสช วอนเร่งแก้ไขปัญหาประชาชนเดือดร้อนหนักจากปัญหาใบส่งตัวผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง
เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
เขียนเมื่อ: 10-02-2025 16:10
หมวดหมู่: บริการสุขภาพ



จันทร์ที่ 10 ก.พ. จากปัญหาที่ประชาชนยังคงเดือดร้อนหนัก จากปัญหาคลินิกปฐมภูมิไม่ออกใบส่งตัว ทำให้ไม่สามารถเข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลต้นสังกัดได้ ประชาชาชนจ่ายเงินค่ารักษาเองสะท้อน ‘มะเร็งรักษาทุกที่’ ยังเป็นไปไม่ได้จริง
ธนัช ธรรมิสกุล และ เบญจวรรณ รัตตกุล ผู้ประสานงานเครือข่าย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จึงร่วมกับ นายธนพลธ์ ดอกแก้ว ประธานเครือข่ายพลเมืองขับเคลื่อนสิทธิด้านสุขภาพ (Healthy Forum) และตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วย ได้แก่ เครือข่ายผู้ป่วยมะเร็ง อาร์ตฟอร์ แคนเซอร์ บาย ไอรีล, ชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย สมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย และเครือข่ายผู้ป่วยเอชไอวี ณ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเข้ายื่นหนังสือต่อ รศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย นพ.วีระพันธ์ ลีธนะกุล รองเลขาธิการ สปสช. รับยื่นหนังสือ “กรณีผลกระทบของผู้ป่วยต่อนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ของผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง”
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้รวบรวมปัญหายื่นต่อ สปสช.ดังนี้
1.กรณีบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ซึ่งเป็นนโยบายที่มุ่งยกระดับให้ประชาชนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าถึงการบริการใกล้บ้านได้โดยเร็วที่สุดแต่ปัจจุบันยังไม่สามารถใช้ได้จริงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือใช้ได้แต่ไม่ครอบคลุมทั้งกรุงเทพมหานครซึ่งพบว่าโรงพยาบาลอีกหลายแห่งยังคงใช้ไม่ได้
2.กรณีที่ผู้ป่วยต้องขอใบส่งตัวจากคลินิกปฐมภูมิเพื่อไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลรับส่งต่อ แต่ทางคลินิกปฐมภูมิไม่ออกใบส่งตัวให้ผู้ป่วย หรือออกให้ไปรักษาโรงพยาบาลในเครือของตนเองซึ่งพบว่าโรงพยาบาลในเครือบางแห่งยังไม่มีประกาศออกมาว่าเป็นโรงพยาบาลรับส่งต่อ และทางผู้ป่วยไม่ได้เรียกร้องไปโรงพยาบาลรับส่งต่อนอกเหนือจากสิทธิที่ตนเองได้รับ
ศรีรัตน์ จันทร์มี ประชาชนผู้เดือดร้อนจากการต้องจ่ายเงินค่ารักษาหลังคลินิกปฐมภูมิได้ส่งตัวมาที่โรงพยาบาลโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า “สามีของพี่เป็นมะเร็งลำไส้ เราถูกเรียกเก็บเงินค่าตรวจวินิจฉัย รังสีวิทยา ตลอดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากโรงพยาบาลที่รักษาได้อ้างว่าเป็นโรงเรียนทางการแพทย์รวมจ่ายค่ารักษาไปแล้วมากกว่า 1 หมื่นบาททั้งที่ตามนโยบายเราจะต้องไม่เสียเงินเป็นโรงพยาบาลของรัฐ พี่มีเพื่อนเข้ารักษาที่โรงพยาบาลศิริราชเขาก็ไม่เสียเงิน มีความแตกต่างกันอยู่ เราเดือดร้อนมาก เดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้เราก็ต้องเตรียมเสียเงินอีกแล้ว เราเจอหลายคนที่ไม่มีเงินเขาก็บอกว่า เขาต้องทำใจใช่ไหมเพราะไม่มีเงิน”
นายธนัช ธรรมิสกุล หัวหน้าฝ่ายพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และหัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร ของสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนประสบปัญหาสับสนมาก วอนขอให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสื่อสารกับโรงพยาบาลทุกแห่ง คลินิกปฐมภูมิ หน่วยบริการทุกระดับให้มีความเข้าใจที่ชัดเจน ต้องตรงกันถึงสิทธิ ความสามารถในการเข้าถึงบริการของประชาชน วอนขอให้ สปสช.เร่งแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะปัญหาการทำตามนโยบายของหน่วยบริการเอง การจำกัดจำนวนการส่งต่อผู้ป่วย ทำให้ประชาชนถูกปฏิเสธการรักษา สร้างความซับซ้อน ทั้งที่โรคร้ายแรง เร่งด่วนฉุกเฉินควรยิ่งต้องส่งต่อให้ได้รับการรักษาโดยเร็ว
นายธนพลธ์ ดอกแก้ว ประธานเครือข่ายพลเมืองขับเคลื่อนสิทธิด้านสุขภาพ (Healthy Forum) กล่าวว่า “เรามายื่นหนังสือเพื่อขอให้มีการพัฒนาระบบบริการที่ดีกว่านี้ เนื่องจากเราเป็นผู้ป่วย เป็นผู้ที่อยู่ปลายทางที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ อยากให้มีการจัดคณะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาโดยมีเครือข่ายประชาชนในแต่ละพื้นที่เข้าร่วมด้วย ตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา พวกเรายืนเคียงข้างกับระบบบัตรทองมาตลอด และพร้อมที่จะปกป้อง ดังนั้น จึงอยากให้มีการพัฒนาระบบที่ดี โดยเฉพาะกรณีมีนโยบายใหม่ๆ อยากให้มีการทำงานหลังบ้านให้เรียบร้อยก่อน และค่อยประกาศให้ประชาชนรับบริการซึ่งเรารอได้ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องได้รับผลกระทบและลดความขัดแย้ง” นายธนพลธ์ กล่าว รศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข และ วีระพันธ์ ลีธนะกุล รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช. เข้าใจปัญหาของผู้ป่วยที่เกิดขึ้น โดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในกรณีของใบส่งตัวนี้ มีความเกี่ยวข้องกับทั้งฝ่ายผู้ให้บริการซึ่งเป็นหน่วยบริการ ผู้รับบริการที่เป็นผู้ป่วย และระบบการเบิกจ่ายต่างๆ โดยปัญหาเหล่านี้ สปสช. อยู่ระหว่างการหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน
อย่างไรก็ดีในส่วนของ “โรคมะเร็งรักษาทุกที่” เชื่อว่าน่าจะค่อยๆ คลี่คลายลงแล้ว เนื่องจาก สปสช. ได้ให้กลับไปใช้ประกาศฉบับเดิม โดยกรณีของการดูแลค่าใช้จ่ายไม่ต้องใช้ใบส่งตัวจากหน่วยบริการประจำแล้ว รวมถึงครอบคลุมการดูแลในส่วนการรักษาผู้ป่วยนอกที่จำเป็น โดย สปสช. จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด อย่างไรก็ตามจะมีการทำความเข้าใจกับโรงพยาบาลที่มีศักยภาพด้านมะเร็งเพิ่มเติม เพื่อลดความสับสนกรณีการขอใบส่งตัวผู้ป่วยมะเร็ง โดยยืนยันว่า สปสช. อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด