มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์ 02 248 3737
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์
Consumer Thai Facebook page

< กลับไปหน้ารวมข่าว

สภาผู้บริโภค เปิดเผยผลทดสอบสีในชา ชาผงสำเร็จรูปและชาปรุงสำเร็จ ร้อยละ 50 พบแสดงฉลากไม่ครบถ้วน

เขียนโดย: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

เขียนเมื่อ: 03-02-2025 11:37

หมวดหมู่: อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ

ภาพประกอบข่าว

สภาผู้บริโภค เปิดเผยผลทดสอบสีในชา ชาผงสำเร็จรูปและชาปรุงสำเร็จ ร้อยละ 50 พบแสดงฉลากไม่ครบถ้วน

วันนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ 2568 ) สภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมกับนิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้จัดงานแถลงข่าว”เปิดเผยผลทดสอบสีในชา ชาผงสำเร็จรูปและชาปรุงสำเร็จ” ขึ้นที่ห้องประชุมมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดยดำเนินงานเพื่อเฝ้าระวังสินค้าด้วยการทดสอบเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้า และคุ้มครองผู้บริโภค ตามวัตถุประสงค์โครงการเฝ้าระวังสินค้าด้วยการทดสอบสินค้า สุ่มสำรวจชาผงสำเร็จรูป เพื่อตรวจสอบวัตถุเจือปนอาหาร สีสังเคราะห์ เรื่อง สีในชา ชาผงสำเร็จรูปและชาปรุงสำเร็จ

โดยเก็บตัวอย่างชาผงสำเร็จรูปและชาปรุงสำเร็จ ในเดือนพฤศจิกายน 2567 สุ่มซื้อจากร้านจัดจำหน่ายออนไลน์ 17 ตัวอย่าง และซื้อที่ร้านจัดจำหน่าย 3 ตัวอย่าง ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ทั้งหมด 20 ตัวอย่าง

จากนั้นได้ ส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ วัตถุเจือปนอาหาร สีสังเคราะห์ (Synthetic food colour) ด้วยวิธีการ In-house method SOP no. LBLC-18003 based on Food Chemistry177(2015),P.197 – 203 , HPLC -DAD ครอบคลุมสารสังเคราะห์จำนวน 10 รายการ คือ

1.Tartrazine INS102 (mg/kg)

2.Ponceau 4R INS124 (mg/kg)

3.Sunset yellow FCF INS110 (mg/kg)

4.Allura Red AC INS129 (mg/kg)

5.Carmoisine or Azorubine INS122 (mg/kg)

6.Erythrosine INS127 (mg/kg)

7.Fast green FCF INS143 (mg/kg)

8.Brilliant blue FCF INS133 (mg/kg)

9.Patent blue V INS131 (mg/kg)

10.Quinoline yellow INS104 (mg/kg) ที่ห้องปฏิบัติมาตรฐาน ที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025 ดังนี้

  1. ม้าบิน ชาแดงอัสสัม

2. เจดี ไทยชา ชาไทยผงปรุงสำเร็จ

3.(6 6 6 ชาผงปรุงสำเร็จ (สูตรชาไทย)

4. บลูมอคค่า ชาแดงพรีเมียม ใบชาแดง อัสสัม

5.ishi cha ชาแดงอัสสัม

6. CHA PAK YOON ชาปากยูน ชาไทยสำเร็จรูป

7.มังกรบิน ชาแดงผงปรุงสำเร็จ กลิ่นวานิลลา

8. ช้างทอง ชาผงปรุงสำเร็จ สูตรชาไทย

9.ชาตรามือ ชาผงปรุงสำเร็จ ต้นตำรับชาไทย

10. ลองบีช ชาไทย

11.บอนกาแฟ ชาผงปรุงสำเร็จ สูตรต้นตำรับ

12. ชาใต้ซีลอน ผงชาไทยปรุงสำเร็จ

13.Queen bakery ผงชาไทย

14.BK บีเค เบฟเวอเรจ แอนด์ เบเกอรี่ ผงชาไทยสูตรเข้มข้น

15.WorldWide Coffee ชาไทยสูตรพรีเมี่ยม

16.AROMA อโรม่า ชานมเย็น

17.Cha WARA ชาแดง

18.WANJAI ชาไทย สูตรชาปักษ์ใต้ ไม่แต่งกลิ่นวนิลา

19.20KG ชาแดง

20.Arcady อาเคดี้ ชาไทย เครื่องดื่มผงกลิ่นชาไทย

คุณทัศนีย์ แน่นอุดร รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวรายงานผลวิเคราะห์ว่า

1.ทุกตัวอย่างที่ทดสอบอนุญาตให้ใส่สีได้ (สีสังเคราะห์ที่อนุญาตให้ใช้ผ่านการประเมินความปลอดภัยแล้ว หากใช้ไม่เกินปริมาณที่กำหนด)

2.ทุกตัวอย่างที่นำมาทดสอบพบวัตถุเจือปนอาหาร สีสังเคราะห์ ( ดูรายละเอียดที่ตารางแสดงผลทดสอบ )

3.ร้อยละ 50 ไม่สามารถจัดประเภทอาหารได้ ( สะท้อนเรื่องปัญหาการแสดงฉลากและมีผลต่อการพิจารณาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย หากมีการใส่สีเกินมาตรฐาน )

4.มีการพบวัตถุเจือปนอาหาร สีสังเคราะห์ ทั้งหมด 6 ชนิด ( เป็นสีที่อนุญาตให้ใช้ได้ ) ได้แก่

Tartrazine INS102 ,Ponceau 4R INS124

Sunset yellow FCF INS110

Carmoisine or Azorubine INS122 Brilliant blue FCF INS133

Allura Red AC INS129

  • ตรวจพบ สี Sunset yellow FCF INS110 มากที่สุด คือพบในทุกตัวอย่าง

  • ตรวจพบ สี Tartrazine INS102 และ Ponceau 4R INS124 จำนวน 8 ตัวอย่าง

  • ตรวจพบ สี Allura Red AC INS129 และ Brilliant blue FCF INS133 จำนวน 7 ตัวอย่าง

  • ตรวจพบ สี Carmoisine or Azorubine INS122 จำนวน 6 ตัวอย่าง

5.พบการใส่สีสังเคราะห์ตั้งแต่ 1 สี ถึง 5 สี ต่อตัวอย่าง โดยพบว่ามีการใช้วัตถุเจือปนอาหาร สีสังเคราะห์ มากกว่า 1 สี ใน 17 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 85

ข้อสังเกต

1.จากผลการวิเคราะห์พบว่า มีชา 10 ตัวอย่างจาก 20 ตัวอย่าง ไม่พบสูตรส่วนประกอบบนฉลาก จึงไม่สามารถจัดประเภทอาหารได้ นอกจากนี้ยังไม่สามารถนำมาวิเคราะห์ชาแบบผงสภาพพร้อมบริโภค ตามปริมาณที่แนะนำหน้าฉลากได้

2..ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด 4 ประกาศ คือ

  1. ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 196 พ.ศ. 2543 เรื่อง ชา (https://food.fda.moph.go.th/food-law/category/announcement-of-the-ministry-of-public-health-1/?ppp=10&page=1&kw=196)

  2. ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 356 พ.ศ. 2556 เรื่อง เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท (https://food.fda.moph.go.th/food-law/category/announcement-of-the-ministry-of-public-health-1/?ppp=10&page=1&kw=356)

  3. ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 444 พ.ศ. 2566 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการใช้ และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 3) (https://food.fda.moph.go.th/food-law/category/announcement-of-the-ministry-of-public-health-1/?ppp=10&page=1&kw=444)

  4. ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 417 พ.ศ. 2563 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธิการใช้และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 1) (https://food.fda.moph.go.th/food-law/category/announcement-of-the-ministry-of-public-health-1/?ppp=10&page=1&kw=417)

คุณโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวถึงความสำคัญของกลไกเฝ้าระวังสินค้าและบริการด้วยการทดสอบสินค้านั้นมีความจำเป็นมาก และเป็นสิทธิผู้บริโภคข้อหนึ่ง ดังนั้นเพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้า และคุ้มครองผู้บริโภค บทบาทของสภาผู้บริโภค ในการเฝ้าระวังสินค้า โดยเลือกเฝ้าระวังในประเด็นความปลอดภัยของสินค้า เนื่องจากเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไม่สามารถตรวจสอบได้เองโดยง่าย และข้อมูลบนฉลาก ที่ไม่ถูกต้องครบถ้วน อาจนำมาซึ่งอันตรายในการบริโภค และการแจ้งข้อมูลที่ไม่ครบ บอกไม่หมดถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค และอาจผิดลวงขาย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271

  1. เสนอ อย. บังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดการสินค้าที่เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค และขอณรงค์ให้ผู้ประกอบธุรกิจ มีทางเลือกให้ผู้บริโภค เข้าถึงชาที่ใช้สีธรรมชาติ เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคให้มีอิสระในเลือกซื้อสินค้า

  2. เสนอแนะ อย. ทบทวนกฎหมาย เกี่ยวกับการใช้สีผสมอาหาร และการแสดงฉลากที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค โดยสภาจะทำความร่วมมือกับ อย. และหารือวิชาการเพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค

จึงมีข้อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนี้

ข้อเสนอระยะสั้น

1.จะนำข้อมูลผลวิเคราะห์ที่ได้ส่งต่อให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไปดำเนินการต่อกับผู้ผลิต

2.เฝ้าระวังตรวจสอบผลิตภัณฑ์ชาผงในตลาด ทั้งในแง่ปริมาณสีผสมอาหาร และความครบถ้วนของฉลาก

3.พัฒนาร่วมมือกับเครือข่ายภาคประชาชน ในการเฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ต่างๆ

ข้อเสนอระยะต่อไป

1.ปรับปรุงทบทวน ประกาศเกี่ยวกับการใช้สีผสมอาหาร ทั้งในแง่วิชาการ และประโยชน์กับผู้บริโภค ให้เป็นมิตรและคุ้มครองผู้บริโภค เช่น ระบุสีที่ใส่ให้ครบถ้วน เพราะจากผลทดสอบพบว่า บางตัวอย่างไม่ระบุสีที่ใส่ แต่ตรวจพบ, บางตัวอย่างยังพบปัญหาการแสดงฉลากไม่ครบถ้วน จึงทำให้จัดประเภทอาหารไม่ได้ โดยหลายตัวอย่าง ไม่มีเลข อย. , ใช้ผสมได้กี่สี, บางประเทศห้ามใช้สีสังเคราะห์ แต่ในไทยให้ใส่ ควรมีการทบทวนโดยนักวิชาการร่วมกันว่าควรเป็นอย่างไร จำเป็นต้องใส่หรือไม่ฯลฯ

  1. ข้อเสนอเกี่ยวกับฉลาก

  2. การแสดงฉลาก ให้แสดง หน้าที่สี และตามด้วย INS no แม้จะตรวจสอบได้ แต่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ แต่สำหรับผู้บริโภคอาจจะยากเกินไป จะไม่รู้ว่า INS no นั้นๆ คืออะไร การระบุแบบนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า

  3. จากการเก็บตัวอย่าง พบผลิตภัณฑ์ไม่มีรายละเอียด แสดงว่าระบบเฝ้าระวังหลังผลิตภัณฑ์ออกสู่ท้องตลาดยังมีช่องโหว่ เห็นสมควรร่วมกันปรับปรุงและพัฒนา ระบบเฝ้าระวังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3.รณรงค์ส่งเสริมให้ ผู้ผลิต/ ผู้บริโภคมีทางเลือก ในการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ใช้สีจากธรรมชาติ

4.พัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พัฒนาแผนเฝ้าระวังร่วมกัน และนำข้อมูลผลวิเคราะห์ไปใช้ในการวางแนวทางการแก้ไขปัญหาเชิงระบบฯลฯ

ดร. แก้ว กังสดาลอำไพ ที่ปรึกษานิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวถึง อันตรายของวัตถุเจือปนอาหาร สีสังเคราะห์ว่าอาหารที่ผลิตในกระบวนการอุตสาหกรรมมักมีสีสันที่ได้รับการปรุงแต่งจากวัตถุเจือปนอาหาร ซึ่งผู้ใส่ใจในสุขภาพมักตั้งคำถามว่า สีสันสวยงามของอาหารจากการเติมแต่งวัตถุเจือปนอาหารซึ่งเป็นสารแปลกปลอมต่อร่างกายนั้น ควรเป็นที่ยอมรับหรือไม่ เพราะในการประเมินผลของวัตถุเจือปนอาหารในสัตว์ทดลอง (ก่อนมีการใช้จริง) แล้วมีผลจากการประเมินว่าให้ใช้ได้นั้นคือ การที่ผู้บริโภคยอมรับความเสี่ยงว่า ขนาดที่ใช้ในอาหารนั้นมีความเสี่ยงต่ำที่สุดด้วยการคำนวณ ซึ่งมีความเป็นจริงเพียงใดนั้นยังขึ้นกับการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล ที่มักต่างกันด้วยหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการนำสารแปลกปลอมออกจากร่างกาย ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริโภคควรคำนึงคือ ไม่มีคำว่า ปลอดภัย (safe) ในเอกสารทางพิษวิทยาของสารเคมีที่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ แต่มีคำว่า ความเสี่ยงและประโยชน์ที่ได้ (risk and benefit) เท่านั้น มีข้อสังเกตและแนะนำเรื่องการบริโภคว่า

  1. ตัวอย่างชาผงปรุงสำเร็จที่เรานำมาทดสอบในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นชนิดที่ร้านขายชา – กาแฟโบราณ ซื้อจากร้านค้าออนไลน์ และร้านค้าทั่วไป เพื่อไปต้มชงขายอีกที ซึ่งปกติเราก็ไม่ค่อยได้ทราบกันอยู่แล้วว่าร้านที่เราซื้อเขาใช้ชาแบบไหนมาชงให้เรา แบบนี้การหลีกเลี่ยงสีสังเคราะห์ที่อยู่ในชาก็เป็นเรื่องยาก นอกจากจะลดการดื่มชา ทั้งชาดำเย็นและชานมเย็น เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่าสีส้มสวยๆ ของชา มาจากสีสังเคราะห์ซึ่งถ้าเราได้รับเข้าสู่ร่างกายมากๆ ก็อาจเป็นอันตราย

  2. แต่ถ้าหากอยากดื่มชา แนะนำว่าให้ซื้อมาชงรับประทานเอง โดยเลือกซื้อชาผงสำเร็จรูปที่ไม่ใส่สี มีบรรจุภัณฑ์สะอาดเรียบร้อย มีเลขที่อย.ถูกต้อง มีการแจ้งชื่อ-ที่อยู่ผู้ผลิต วันที่ผลิต วันหมดอายุ และส่วนประกอบต่างๆ ซึ่งนอกจากจะลดความเสี่ยงในการได้รับสีสังเคราะห์มากเกินไปแล้ว เรายังสามารถควบคุมเรื่องความหวานจากน้ำตาลและนมได้ด้วย

  3. ข้อแนะนำสำหรับการเลือกชาปรุงสำเร็จในภาชนะบรรจุ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา คือ 3.1 เลือกที่มีเลข อย. 3.2 อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ กรณีที่มีการใช้สีจะแสดงคำว่า "สีสังเคราะห์ หรือสีธรรมชาติ (INS...หรือ ชื่อของสี) 3.3 เลือกเครื่องดื่มที่หลากหลายเพื่อลดการได้รับสีผสมอาหารชนิดเดิมซ้ำๆ

หมายเหตุ : ผลทดสอบเฉพาะตัวอย่างที่สุ่มตรวจเท่านั้น


ปรึกษา ร้องเรียน
สอบถามเพิ่มเติม