มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์ 02 248 3737
ให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์
Consumer Thai Facebook page

< กลับไปหน้าคลังข้อมูล

จ่ายหนี้ไม่ไหว ทำอย่างไร?

หมวดหมู่: การเงินการธนาคาร

เป้าหมายของคำแนะนำนี้

แนวทางปฏิบัติเมื่อจ่ายหนี้ไม่ไหว

คำแนะนำ

เมื่อรู้ตัวว่าจ่ายหนี้ไม่ไหวแล้ว จะต้องไม่สร้างหนี้เพิ่ม ทำบัญชีรายรับรายจ่ายเพื่อสำรวจพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง หากทำได้ควรหารายได้เสริม และไม่ควรหนีเจ้าหนี้ เพราะอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น โดยเลือกวิธีการจ่ายหนี้ให้เหมาะสมตามกำลัง ดังนี้

วิธีที่ 1 การชำระคืนขั้นต่ำ

ชำระขั้นต่ำของหนี้แต่ละเดือนที่ระบุไว้ให้ชำระได้ จะหักเงินต้นได้น้อย จนทำให้ใช้เวลานานในการชำระหนี้จนหมด (การชำระหนี้ในแต่ละเดือน เงินที่ชำระจะไปหักดอกเบี้ยก่อน แล้วจึงหักเงินต้น

สูตรคำนวณดอกเบี้ย คือ ดอกเบี้ย = (เงินต้น x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในงวด) / 365

  • เหมาะกับ : ผู้ที่มีหนี้ไม่กี่รายการ สามารถชำระหนี้ด้วยรายได้ของตัวเองตลอดตามสัญญา และมีเงินพอใช้ตลอดเดือน ไม่ต้องหมุนเงินหรือหาหนี้ใหม่มาใช้จ่าย
  • ข้อดี : จะไม่ถูกทวงหนี้ ไม่เสียเครดิต ไม่ติดแบล็กลิสต์
  • ข้อเสีย : ดอกเบี้ยจะมากกว่าเงินต้น ใช้เวลานานกว่าจะหมดหนี้

วิธีที่ 2 การรวมหนี้

คือการกู้เงินจำนวนมากพอที่จะจ่ายหนี้รายย่อยทั้งหมดได้ และนำไปชำระจนหมด ทำให้หนี้ทั้งหมดเหลือเพียงรายเดียวจากที่มีหลายราย

  • ข้อดี : จำนวนเงินที่ผ่อนชำระในแต่ละงวดลดลง
  • ข้อเสีย : เสียดอกเบี้ยทั้งหนี้ใหม่และหนี้เก่านานมากกว่าจะหมดหนี้ อาจเสียทรัพย์สินที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้ หากผิดนัดชำระหนี้

ทำได้ 2 วิธี คือ

  • นำทรัพย์สินไปจำนอง : ทรัพย์สินต้องมีมูลค่ามากพอที่จะชำระหนี้อื่นๆ ทั้งหมด เพื่อให้เหลือเพียงหนี้จากการจำนองทรัพย์สิน
  • ขอกู้กับสถาบันการเงินที่มีนโยบายรวมหนี้ เช่น คลินิกแก้หนี้ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.)หรือ SAM หากลูกหนี้มีหนี้หลายราย เมื่อเข้าโครงการรวมหนี้ ธนาคารจะช่วยรวมหนี้จากเจ้าหนี้หลายรายมาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และเหลือผ่อนชำระกับธนาคารนั้นรายเดียว

วิธีที่ 3 การหยุดชำระหนี้ เก็บเงินรอเจรจาชำระหนี้

  • เหมาะกับ : ผู้ที่มีหนี้จำนวนมาก
  • ข้อดี : สามารถเจรจาปิดหนี้ด้วยเงินก้อนเดียว ลดการฟ้องคดี
  • ข้อเสีย : โดนทวงหนี้ เสียเครดิต ติดแบล็คลิสต์ ถูกฟ้องศาลในกรณีที่เก็บเงินไม่ทัน อาจถูกบังคับคดี อายัดเงินเดือน อาจถูกยึดทรัพย์

มีขั้นตอน ดังนี้

  • หยุดชำระหนี้ทุกบัญชี
  • ทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อดูว่ารายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็น และถ้าประหยัดที่สุดแล้วจะเหลือเงินเท่าไร
  • เก็บสะสมเงิน ตามจำนวนเงินที่เก็บได้ในแต่ละเดือน
  • ทำบัญชีหนี้ เพื่อดูว่าเจ้าหนี้มีกี่ราย แต่ละรายเป็นหนี้เท่าไร
  • เจรจาเพื่อปิดบัญชีไปทีละบัญชี แต่ถ้าเจรจาไม่ได้ ก็เก็บเงินสะสมไปเรื่อยๆ แล้วเจรจาอีกครั้ง

ตัวอย่าง : มีหนี้ 3 ราย คำนวณเงินเก็บต่อเดือนได้ 3,000 บาท เก็บเงิน 4 เดือน ได้ 12,000 บาท นำเงินเก็บมาเจรจาปิดบัญชีกับเจ้าหนี้แต่ละราย หรือ ถ้ามีเจ้าหนี้ติดต่อมาขณะเก็บเงินก็ขอเจรจรในวงเงินที่มีอยู่







ปรึกษา ร้องเรียน
สอบถามเพิ่มเติม